ระดมเชิงรุกพื้นที่กทม. เตรียมเปิดรพ.บุษราคัม สัปดาห์นี้ วางแผนกระจายฉีดวัคซีน 115 แห่งทั่วกทม.
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันตอนหนึ่งว่า สำหรับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดวันที่ 8 พ.ค. โดย 5 อันดับแรกคือ กทม. จำนวน 1,112 ราย นนทบุรี 217 ราย สมุทรปราการ 114 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 100 ราย ปทุมธานี 93 ราย และสาเหตุส่วนใหญ่ของการติดเชื้อคือการติดเชื้อจากตลาด ชุมชน ระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงการสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘โควิดไทย’ยังแรง! ป่วยเพิ่ม2,419ราย เสียชีวิตอีก19ราย)
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ถ้าดูจากยอดรวมผู้ติดเชื้อวันนี้ กทม.และปริมณฑล มียอดสูงถึง 1,641 ราย ขณะที่จังหวัดอื่นๆทั้ง 71 จังหวัดมียอดเพียง 768 ราย ทำให้หลังจากนี้ต้องมีการคัดกรองเชิงรุกมากยิ่งขึ้น เพื่อค้นหาตัวเลขที่แท้จริงมาวางแผนในการป้องกันการระบาด โดยมีนโยบายเร่งด่วนสำหรับกทม.และปริมณฑลให้ลงพื้นที่สำรวจเชิงรุก
"โดยพื้นที่คลัสเตอร์สำคัญที่อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังในกทม. ที่ต้องระดมสรรพกำลังเข้าไปช่วยคือ ชุมชนวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ,ชุมชนวัดญวนคลองลำปัก เขตดุสิต ,ปากคลองตลาด เขตพระนคร ,ศูนย์การค้าเขตพระนคร โดยวันที่ 8 พ.ค. กทม.จะลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกในหลายพื้นที่ อาทิ สนามธูปเตมีย์ คลองเตย อ่อนนุช สำเพ็ง จึงขอให้ประชาชนและผู้นำชุมชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือ ให้มากที่สุด"พญ.อภิสมัย กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กได้พูดคุยถึงการบริหารจัดการเตียงว่าในสัปดาห์นี้จะมีการเปิดโรงพยาบาลบุษราคัม ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี รองรับผู้ป่วยสีเขียวเข้มและสีเหลือง โดยสถานที่ดังกล่าวจะต่างจากโรงพยาบาลสนาม สามารถให้การรักษาที่ยากลำบากยิ่งกว่าโรงพยาบาลสนาม จัดบุคลากรทางการแพทย์มาให้การดูแล เป็นต้น และจากข้อมูลการบริหารจัดการเตียงล่าสุด การรอเตียงในขณะนี้คลี่คลายไปมากจะไม่เกิน 1-2 วันตามแผนที่ได้วางไว้
สำหรับผู้ป่วยสีแดงอัตราการรอเตียงคือศูนย์ และในการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข ในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. มีความเห็นที่ได้ข้อสรุปว่า ให้ทุกหน่วยงานทั้งกทม.และปริมณฑลบูรณาการเรื่องข้อมูล เร่งรัดทำการคัดกรองเชิงรุกให้มากขึ้น เร่งระดมการตรวจ จากแผนเดิมที่จะค้นหาเชิงรุกในกทม. 26,850 คนใน 1 สัปดาห์ ให้ระดมสรรพกำลังดึงหน่วยงานทุกภาคส่วนดำเนินการตรวจให้เสร็จภายใน 2 วัน และมีการพูดถึงการเตรียมเตียงในกทม.และปริมณฑล ในส่วนของการติดเชื้อ 1,000 กว่าราย เตียงจะต้องเตรียมให้ได้ไม่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็น ในแต่ละสัปดาห์จะมีการวางแผนเตียงล่วงหน้า
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ผู้ว่าฯกทม.ยังได้เสนอที่ประชุม ในสัดส่วนของกทม.ขอเสนอให้มีการฉีดวัคซีนผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ บุคคลากรครู พนักงานเก็บขยะกทม. การท่าอากาศยานดอนเมือง การท่าเรือ พนักงานการไฟฟ้า การประปา อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการฉีดวัคซีนหลังได้รับวัคซีนเพิ่มเติมในพื้นที่กทม.นั้น จากเดิมที่จะฉีดเฉพาะในโรงพยาบาล เพื่อความปลอดภัยของผู้รับวัคซีน แต่หลังจากฉีดไปแล้วในประเทศกว่าล้านโดสทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น
"กทม.จะกระจายการฉีดไปทั้งสิ้น 115 แห่ง และเอกชน 14 แห่ง โดยจะมีโรงพยาบาลพี่เลี้ยงคอยดูแลสถานที่ฉีดแต่ละแห่งด้วย ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ประมาณ 2,000 มาหลายวันแล้ว เป็นเพราะตรวจน้อยเพื่อต้องการปกปิดตัวเลขหรือไม่นั้น สำหรับกทม.และปริมณฑลระหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค.มีตัวเลขตรวจสะสม 200,000 กว่าคนถือว่าไม่น้อย แต่ถ้าถามว่าพอหรือไม่อาจยังไม่พอ หลังจากนี้จะมีการเข้มกำลังการตรวจ รวมถึงพื้นที่จังหวัดอื่นๆ หากไม่พบตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ให้รายงานเข้ามาว่าตรวจเท่าไหร่และผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ เราจะพยายามทำให้มากที่สุดในทุกจังหวัด"พญ.อภิสมัย ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี