วันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ที่กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.อ.ปิยพล แป้นแก้ว, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บุญทอง, ร.ต.อ.ยุทธนา จิตจำนอง, ร.ต.อ.เถกิงศักดิ์ ธรรมโชติ รอง สว.กก.6บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายนัธฐากรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 841/2563 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2563 ข้อกล่าวหา “ร่วมกันฟอกเงิน”
คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ทำการจับกุมนายธีระพร หรือหมี พร้อมพวกอีก 10 คน เนื่องจากสืบทราบว่านายหมี มีพฤติกรรมเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ มีเครือข่ายครอบคลุมในพื้นที่ภาคใต้และกรุงเทพฯ รวมไปถึงเครือข่ายต่างๆ ตามเรือนจำอีกหลายแห่ง โดยแก๊งของนายหมี จะมีการลักลอบนำยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายให้กับลูกค้ารายย่อยในพื้นที่ จ.ตรัง และจังหวัดใกล้เคียงในภาคใต้ โดยมี น.ส.ดาวเรือง ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นผู้ประสานงานคอยทำหน้าที่รับโอนเงินค่ายาเสพติดจากเครือข่ายต่างๆ รวมถึงมีการถ่ายโอนเงินจากการค้ายาเสพติดไปยังบัญชีอื่นๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ ปปง. ให้ช่วยตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงินของเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบพบว่าเส้นทางการเงินของ น.ส.ดาวเรือง มีการโอนเงินค่ายาเสพติดเข้า-ออก ไปยังบัญชีอื่นๆ มากถึง 113 บัญชี และยังมีการโอนย้ายเงินไปยังบัญชีอื่นๆ ต่อไปอีก โดยพบเงินหมุนเวียนทั้งระบบมีจำนวนสูงถึงประมาณ 3 พันล้านบาท ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเรื่อยมา จนกระทั่งสืบทราบว่า นายนัธฐากรณ์ หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งมีหน้าที่ถือบัญชีรับโอนเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดส่วนหนึ่งของเครือข่าย และโอนต่อไปยังบัญชีปลายทางต่างๆ ตามคำสั่งของ น.ส.ดาวเรือง ได้หลบหนีมากบดานอยู่ใน จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวนายนัธฐากรณ์ ได้ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามนายนัธฐากรณ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมพบว่า เมื่อปี 2563 นายนัธฐากรณ์ มีประวัติเคยต้องโทษจำคุกในคดีค้ายาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี