วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ว่า

"สถานการณ์ทั่วโลก 12 พฤษภาคม 2564...

ทะลุ 160 ล้านไปแล้ว ในขณะที่เนปาลทำลายสถิติทั้งจำนวนการติดเชื้อต่อวันมากกว่าเก้าพันสามร้อยคน และจำนวนการเสียชีวิตต่อวันมากกว่าสองร้อยคน

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 723,770 คน รวมแล้วตอนนี้ 160,302,238 คน ตายเพิ่มอีก 13,529 คน ยอดตายรวม 3,330,287 คน

5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อินเดีย บราซิล อเมริกา อาร์เจนตินา และฝรั่งเศส

อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 32,866 คน รวม 33,548,077 คน ตายเพิ่ม 722 คน ยอดเสียชีวิตรวม 596,925 คน อัตราตาย 1.8%

อินเดีย ติดเพิ่มมากถึง 348,529 คน รวม 23,340,456 คน ตายเพิ่ม 4,200 คน ยอดเสียชีวิตรวม 254,225 คน อัตราตาย 1.1%

บราซิล ติดเพิ่ม 71,018 คน รวม 15,285,048 คน ตายเพิ่มถึง 2,275 คน ยอดเสียชีวิตรวม 425,711 คน อัตราตาย 2.8%

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 19,791 คน ยอดรวม 5,800,170 คน ตายเพิ่ม 240 คน ยอดเสียชีวิตรวม 106,935 คน อัตราตาย 1.8%

ตุรกี ติดเพิ่ม 14,497 คน รวม 5,059,433 คน ตายเพิ่ม 278 คน ยอดเสียชีวิตรวม 43,589 คน อัตราตาย 0.9%

อันดับ 6-10 เป็น รัสเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพัน

แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เนปาล ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น

เนปาลตอนนี้หนักมาก ทำลายสถิติอีกครั้ง ติดเพิ่มถึง 9,317 คน สูงสุดเท่าที่เคยเป็นมา และตายถึง 225 คน ยอดติดเชื้อรวม 413,111 คน ยอดเสียชีวิตรวม 3,084 คน อัตราตาย 1%

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง อยู่ระดับหลักร้อยถึงพันกว่า หลายประเทศกดลงมาอยู่หลักร้อย ยกเว้นลิธัวเนีย คาซักสถาน ยูเครน ที่ยังหลักพัน

แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง

เกาหลีใต้ และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน เวียดนาม และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกงติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...ทุกอย่างที่เห็น ทุกสิ่งที่เป็น ล้วนมีสาเหตุและที่มาเสมอ

...ในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน สิ่งที่ประชาชนควรทำอย่างยิ่งคือ "การใส่หน้ากากสองชั้น" ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า

...มองไปข้างหน้าอีกนาน 9-12 เดือน ทางเดินจะเป็นอย่างไร ขึ้นกับศักยภาพของระบบการตรวจคัดกรองโรค และการจัดหาอาวุธที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อจะนำมาใช้

ด้วยรักและห่วงใย"