“ผบช.สตม.” นำแถลง “กก.สส.บก.ตม.4” บุกรวบอินเดียแสบ เปลี่ยนชื่อ-พาสปอร์ตเข้าไทย คอตก ไม่รอด Biometrics จับได้
13 พฤษภาคม 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธรรอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และรองโฆษก สตม. และ พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา
สืบเนื่องจาก กก.สส.บก.ตม.4 นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธีระพงษ์ วรสุทธิ์พิศาล สว.กก.สส.บก.ตม.4 ได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนามว่า มีบุคคลต่างด้าวสัญชาติอินเดีย อาจเป็นผู้เคยถูกจับดำเนินคดีและถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักรแล้ว ปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.4 ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ MR.AASHISH สัญชาติอินเดีย อายุ 54 ปี พักอาศัยอยู่ในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่มีพฤติการณ์น่าสงสัยโดยเชื่อว่า MR.AASHISH ไม่น่าจะเป็นผู้ที่มีอายุ 54 ปี ตามที่ระบุในหนังสือเดินทางจริง จึงเชิญตัวไปตรวจสอบโดยใช้ระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics)
เมื่อตรวจสอบจากลายนิ้วมือและใช้ระบบจดจำใบหน้าของบุคคลต่างด้าวแล้ว พบว่า มีข้อมูลตรงกันถึง 97% กับบุคคลต่างด้าวชื่อ MR.RAM อายุ 34 ปี สัญชาติอินเดีย ซึ่งเคยต้องโทษ ในความผิดฐาน อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต (901 วัน) หลังจากดำเนินคดีถึงที่สุดแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 61 พร้อมขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรเป็นเวลา 10 ปี จากการสอบถาม MR.RAM หรือ MR.AASHISH รับว่า ตนได้เปลี่ยนชื่อและหนังสือเดินทางของตน จากนั้นได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 62 แล้วซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จว.ศรีสะเกษ เรื่อยมา จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนตรวจพบ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.4 จึงนำตัว MR.RAM หรือ MR.AASHISH มาตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด – 19 ผลปรากฏเป็นลบ จึงได้ควบคุมตัวเพื่อดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี