สธ.ยืนยันการพบเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 15 คน จาก 61 ตัวอย่างในแคมป์คนงานหลักสี่ ส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย ยังรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยายาล พร้อมติดตามผู้สัมผัสอย่างเข้มข้น เผยยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าสายพันธุ์อินเดีย มีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อังกฤษ แต่พบว่าไม่ดื้อต่อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าว
ประเด็น"การพบเชื้อกลายพันธุ์คลัสเตอร์หลักสี่"ว่า เชื้อไวรัสโควิดที่มีการแพร่ระบาดในบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งมีการแพร่ระบาดรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมที่จีน ส่วนสายพันธุ์อินเดียพบว่า มีการแพร่ระบาดพบในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ส่วนเมียนมา และกัมพูชา ยังถอดรหัสล่าช้าอยู่ แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นสายพันธุ์อินเดีย
ทั้งนี้ จากข้อมูลประเทศไทยมีโอกาสที่สายพันธุ์อินเดียจะหลุดรอดเข้ามาได้แพร่ระบาดได้ และจากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมทำงานกับมหาวิทยาลัยแพทย์ต่างๆ ในการศึกษากรณีคลัสเตอร์หลักสี่ จากการนำ 61 ตัวอย่างพันธุกรรมเชื้อมาตรวจหาสายพันธุ์ พบว่าตรงกับสายพันธุ์อินเดีย 15 คน เป็นชาย 7 คนและหญิง 8 คนโดยมีอายุเฉลี่ย 46 ปี
"ส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย และยังให้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งในจำนวน 15 ตัวอย่างนี้ พบในแรงงานต่างด้าวจำนวน 13 คนและ 2 คนเป็นผู้สัมผัสอยู่ภายนอกแคมป์คนงาน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและสำนักอนามัย กทม.จะต้องเร่งรัดติดตามผู้สัมผัสอย่างอย่างเข้มข้นต่อไป"นพ.โอภาส กล่าว
พร้อมระบุว่า จากข้อมูลจาก Public Health England ประเทศอังกฤษ พบว่า 1) เป็นสายพันธุ์ที่มีความสามารถกระจายโรคได้ไม่ต่างจากสายพันธุ์อินเดีย 2) ยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ด้วยว่าความรุนแรงของสายพันธุ์อินเดียมากกว่าสายพันธุ์อังกฤษ และ 3) ขณะนี้ข้อมูลยังไม่พบว่าสายพันธุ์ของอังกฤษและอินเดียดื้อต่อวัคซีนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่เรากำลังจะใช้ โดยข้อมูลทางวิชาการพบว่าวัคซีนยังสามารถใช้ได้กับทั้ง 2 สายพันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี