เพื่อนบ้านสุดทนร้องมูลนิธิสัตว์บุกช่วยแมว 100 กว่าชีวิตถูกขังอยู่ในบ้าน ผงะกลิ่นเหม็นตลบอบอวล เคยร้องเรียนเทศบาลไปแล้วแต่ทำได้แค่ว่ากล่าวตักเตือนสุดท้ายก็เงียบหายไป เผยเจ้าของบ้านเป็นคุณยายเก็บเจ้าเหมียวมาเลี้ยงนับ 10 ปี
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์ว่า มีแมวส่งเสียงร้องเสียงดังและมีกลิ่นเหม็นบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยรังสิตนครนายกที่ 60 บ้านเลขที่ 401,522 , 387 หมู่ 5 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ลักษณะบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น โดยภายในบ้านพบแมวเป็นจำนวนมากทั้งหมด 3 หลัง แต่ละหลังเป็นทาวน์เฮ้าส์ห่างกัน คนละตึก โดยจุดที่พบเป็นบ้านที่เต็มไปด้วยเศษไม้ พอเข้าไปข้างในเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น
ส่วนอีกบ้านหลังหนึ่ง มีแมวประมาณ 50 ตัว ส่งเสียงดังโดยไม่สามารถเข้าไปได้ จากการสอบถามชาวบ้านได้เล่าว่า มีบ้านทั้งหมด 3 หลัง เลี้ยงแมวเป็นจำนวนมากทำแบบนี้มานานนับสิบปีเคยแจ้งไปสำนักงานเขตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมก็เข้ามาตรวจสอบตักเตือนด้วยวาจาและทำหนังสือตักเตือนแต่เรื่องก็เงียบหายไป
ด้านนางประยูร สาแก้วอายุ 53 ปีชาวบ้าน กล่าวว่า ตั้งแต่มาอยู่นี่ 10 กว่าปี เคยแจ้งไปที่หน่วยงานหลายครั้งแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมาให้ความช่วยเหลือ ตนเคยถามกับคนเลี้ยงบอกว่าทำไมเลี้ยงแมวเยอะขนาดนี้ได้รับคำตอบว่าไม่ใช่แมวเขา คล้ายลักษณะคุยกันไม่รู้เรื่อง ส่วนบ้านหลังที่ 3 นั้นคนละเจ้า ซึ่งทราบมาว่าวันนี้ จะมีเจ้าของบ้านมาทำข้อตกลงเพื่อที่จะเคลื่อนย้ายแมวออกจากบ้าน โดยวันนี้ตนก็ได้ไปบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจเพื่อร้องทุกข์ว่ามีแมวส่งกลิ่นเหม็นสร้างความเดือดร้อนในชีวิตประจำวันของตัวเอง ส่วนบ้านหลังที่ 3 เดี๋ยวประมาณ 19.00 น. เขาก็จะมาเพื่อเซ็นความยินยอมเพื่อที่จะเคลื่อนย้ายแมวออกไป
ด้านนายนรินทร์ สาแก้ว สามีนางประยูร ได้กล่าวว่า แมวที่เห็นอยู่ตอนนี้มียายเป็นเจ้าของ แกเป็นคนชอบเลี้ยงแมวแกชอบสะสมแมว เจอแมวที่ไหนก็จะจับเข้าไปในกรงไว้เพื่อเอาไปเลี้ยง ไม่มีการเลี้ยงปล่อยเจอแล้วก็จับเอามาไว้ที่บ้าน แต่เป็นแบบนี้ลักษณะ 10 กว่าปีแล้ว จากที่เคยเลี้ยง 4-5 ตัวเดี๋ยวนี้ก็หลายตัว บางทีก็ปล่อยให้ตายในกรงก็มีเหม็น ล้างก็ไม่เคยล้าง เคยไปแจ้งหน่วยงานเทศบาลหลายครั้งแต่ก็เงียบหายไปทุกทีซึ่งก่อนที่จะเกิดเรื่องก็มีฝรั่งที่อยู่แถวนี้เขาจะโพสต์ลงใน facebook หลังจากวันนี้ที่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือก็รู้สึกดีใจมาก บอกตรงๆว่าตัวเองก็รักแมวแต่การเลี้ยงแมวลักษณะอย่างนี้ก็ไม่น่า เลี้ยงไว้
นายทศพร กลั่นแก้ว ประสานงานองค์กรสิทธิสัตว์แห่งประเทศไทย ได้มาที่เกิดเหตุและให้ความช่วยเหลือ กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีการกักขังแมวไว้ในบ้านและส่งกลิ่นเหม็น คล้ายมีกลิ่นศพ กลิ่นมูลแมว จากนั้นก็เลยแวะเข้ามาตรวจสอบดูตามที่ร้องเรียนพบว่า มีทั้งหมด 3 หลัง เบื้องต้นเข้าใจว่าเป็นเจ้าของบ้านเดียวกัน โดยหลังแรกที่เข้าไปช่วยนั้นก็ประมาณ 20 ตัว พบสุนัขถูกกักขังไว้ 3 ตัวถูกเลี้ยงไว้ในห้องน้ำ กักขังไว้โดยไม่สามารถไม่ให้ออกไปไหน ในบ้านก็เป็นกองขยะ คิดว่าคุณยายที่เอามามาเลี้ยงนั้นลักษณะเหมือนป่วย เหมือนเป็นโรคเก็บทุกอย่าง
นายทศพร กล่าวอีกว่า ส่วนบ้านหลังที่สองนั้น เอาแมวออกไปทั้งหมดแล้วประมาณ 50 ตัวที่ช่วยเหลือออกไปได้ ซึ่งต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือเนื่องจากสัตว์ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร ส่วนยายซึ่งเป็นเจ้าของบ้านก็ให้ความร่วมมือโดยดี แต่ตอนนี้ก็นำสัตว์บางส่วนเอาไปส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ส่วนบางส่วนก็ยังอยู่ในบ้านตามตรอกซอกซอย และก็อยู่ในกรงอีก
สำหรับบ้านหลังที่ 3 นั้น ประเมินดูแล้วน่าจะเกินกว่า 50 ซึ่งบ้านหลังที่ 3 นั้นไม่ใช่เจ้าของเดียวกันแต่เป็นอีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็กำลังประสานให้เจ้าของบ้านหลังที่ 3 ได้ให้ความยินยอมเพื่อที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งการช่วยเหลือก็เริ่มช่วยเหลือตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เบื้องต้นเราก็ต้องไปบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ แต่ตอนนี้ก็รอหมายเพื่อที่จะอายัดสัตว์ จากการสอบถามชาวบ้านเคยไปร้องเรียนหลายทีแล้ว หลายรอบเคยแวะมาดูแต่ก็ยังไม่ดำเนินการอะไร
เบื้องต้น ร.ต.อ.พิชัย วุฒิสาร รองสารวัตรปราบปราม สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนแมวทั้งหมดจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ประสานงานองค์กรสิทธิสัตว์แห่งประเทศไทยจัดการดูแลต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี