เมื่อวันที่ 1กรกฎาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดรถทหารพราน กองร้อย4021 พื้นที่บ้านแบหอ หมู่ 2 ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปีนัง จ.ยะลา ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 8นายและบาดเจ็บ 2 นาย ว่า เป็นกลุ่มหัวรุนแรงและไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ซึ่งอาจมีความสัมพันธ์กับขบวนการบีอาร์เอ็นที่ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุย อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังเร่งพิสูจน์ทราบเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง

ด้าน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆ ร่วมแถลงความคืบหน้าการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตทั้ง 8นาย ที่ อ.กรงปีนัง จ.ยะลา โดยขอสดุดีทหารกล้าที่สละชีวิตยอมแลกเพื่อความสงบสุขของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงถึงความโหดร้ายและการลอบกัดเหมือนสุนัขที่กระทำต่อผู้ไม่มีทางสู้ เป็นการกระทำที่ไม่เหมือนมนุษย์และไร้มนุษยธรรมจึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมกันประณามวิธีการกระทำผู้ที่ไม่หวังดีที่ก่อเหตุ

สำหรับการรักษาความปลอดภัยช่วงเดือนรอมฎอนที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 9กรกฎาคม โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จะดูแลอย่างเต็มที่ อาทิ 1.สนับสนุนการเดินทางของผู้จะไปประกอบศาสนกิจ 2.เน้นรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 3.เปิดโอกาสให้ผู้มีความเห็นต่างกลับสู่มาตุภูมิ 4.ปรับจุดตรวจจุดสกัดให้เป็นจุดอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสัญจร ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งเจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24ชั่วโมง โดยใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหา

ขณะที่ พ.อ.จรูญ อำภา ที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงข้อเสนอ7ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็นว่า สมช.อยู่ระหว่างการปรึกษาหารือ โดยได้นำข้อเรียกร้องไปหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่มีผลกระทบเพื่อหาข้อยุติให้ลงตัวมาที่สุด โดยหลังเดือนรอมฎอนจะมีคำตอบต่อข้อเสนอทั้ง 7ข้อ ซึ่งเราต้องดูความเป็นไปได้ของ 7ข้อเสนอว่า ฝ่ายไทยสามารถทำตามที่ร้องขอได้หรือไม่ แต่เรื่องถอนทหารคงไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นผืนแผ่นดินไทย ส่วนการพูดคุยกับเพื่อสันติภาพนั้น สมช.ยินดีเปิดรับพูดคุยกับกลุ่มอื่นเพิ่มเติมและให้โอกาสกับทุกกลุ่ม เพราะบางกลุ่มอาจไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของบีอาร์เอ็น ซึ่งขณะนี้ในทางลับเราได้มีการพูดคุยกับหลายกลุ่มแล้ว โดยไม่ผ่านตัวกลาง อย่างประเทศมาเลเซีย ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งควบเป็น รมว.กลาโหมนั้น คิดว่าสถานการณ์ภาคใต้จะดีขึ้น เพราะท่านจะได้สั่งตรงและทันต่อเหตุการณ์

ทางด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยบีอาร์เอ็นว่า การพูดคุยเป็นเรื่องของ สมช.หลังรอมฎอนคงสรุปสถานการณ์ ยอมรับว่าเหตุไม่สงบแรงขึ้น แต่ทหารทำเต็มที่ ทั้งนี้ต้องรอดูว่านายกฯจะมอบหมายตนให้ดูแลส่วนไหน อย่างไรก็ตามตนมองว่าขณะนี้กลุ่มก่อความไม่สงบมี 3กลุ่ม คือกลุ่มที่ออมาเจรจา กลุ่มกลางๆที่คอยดูว่า ฝ่ายไหนชนะก็ไปทางนั้นและกลุ่มที่ต่อต้าน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ออกมาปฏิบัติการอยู่ในเวลานี้ มีประมาณ 2-3พันคนและเห็นว่าการเจรจาควรทำทั้งทางลับและเปิดเผย

สำหรับเหตุร้ายรายวันในพื้นที่นั้น เวลา 09.00น.วันที่ 1กรกฎาคม พ.ต.อ.ยุคล ประสาทนานนท์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี นำกำลังทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ คนร้ายใช้ปืนสงครามดักซุ่มยิง นายสะมาแอ อาลี อายุ 24ปี ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพื้นที่ ม.3 ต.คอลอตันหยง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเวลา 00.10น.ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกกระสุนที่ขาข้างซ้าย ใต้ราวนมขวา กระสุนยังเจาะทะลุขาซ้ายและขวา ทำให้นิ้วเท้าขาด 4นิ้ว ถูกนำส่งรักษาที่ รพ.ปัตตานีและเสียชีวิตในตอนเช้า สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ หรือขัดแย้งส่วนตัว

ส่วนกรณีคนร้ายใช้ปืนพกสั้นยิง นายตันติกร ปุยชุมพล อายุ 16ปี นักเรียนชั้น ม.5/8และ น.ส.อรพรรณ ปราทุมเทศ อายุ 17ปี นักเรียนโรงเรียนเบญจมราชูทิศปัตตานี ทั้งสองเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ขณะที่ นายตันติกร ขี่รถจักรยานยนต์ โดยมี น.ส.อรพรรณ นั่งซ้อนท้ายหลังกลับจากต้อนรับคณะนักกีฬาจาก จ.ราชบุรี ที่มาร่วมแข่งกีฬาจตุรมิตรเบญจมราชูทิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่4 ซึ่งมีขึ้นวันที่ 1-3กรกฎาคมนี้ เหตุเกิดบนถนนสาย42 ปัตตานี-นราธิวาส พื้นที่บ้านตอหลัง ม.1 ต.ตอหลัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทั้งสองบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเวลา 18.30น.วันที่ 30มิถุนายนที่ผ่านมา

ความคืบหน้า ช่วงเช้าวันที่ 1กรกฎาคม นายสมศักดิ์ ฉันทานุรักษ์ ครูหัวหน้าคณะนักกีฬาจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดราชบุรี พร้อมคณะครู นักเรียนโรงเรียนเบญจมราชูทิศปัตตานี ได้เดินทางมาเยี่ยมดูอาการของทั้งสองคนที่ถูกยิง โดย น.ส.อรพรรณ ยังรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู โรงพยาบาลปัตตานี มีบาดแผลถูกยิงที่กกหูขวา ทะลุใกล้เบ้าตา ถูกเส้นจมูก สภาพใบหน้าบวมช้ำ และต้องใช้เครื่องหายใจ แต่สามารถยกมือสู้ได้ ซึ่งแพทย์ให้ความเห็นว่า เด็กมีจิตใจเข้มแข็ง มีจิตใจที่ดีมาก สภาพบาดแผลถือว่ารุนแรง ถูกจุดสำคัญ หลังจากนี้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อหายดีแล้วก็ต้องทำศัลยกรรม โดยเพื่อนๆที่มาเยี่ยมต้องให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง ส่วนบรรดาครูได้รวบรวมเงินและมอบให้ น.ส.อรพรรณ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อไป ส่วน นายตันติกร ถูกยิงบริเวณแขนซ้าย อาการปลอดภัยแล้วเช่นกัน คาดว่าไม่กี่วันก็กลับบ้านได้