“บิ๊กอู๊ด” นำแถลง “สืบ สตม.-กก.ปอพ.” ไล่จับรถตู้ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น นำพา ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ขนเขมรเตรียมผ่านช่องทางธรรมชาติสุรินทร์กลับประเทศ
22 มิถุนายน 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.อภิมุข กาตยากร รอง ผบก.สส.สตม. , ว่าที่ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.กก.ปอพ.บก.สส.สตม. , พ.ต.ท.ชินกร อัศวภูมิ รอง ผกก.กก.ปอพ.บก.สส.สตม. ร่วมแถลง ว่าที่ พ.ต.ต.หญิงกัลย์สุดา จุลประเสริฐ สว.กก.ปอพ.บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ. บก.สส.สตม. ร่วมกันจับกุมขบวนการช่วยเหลือ ซ่อนเร้น นำพา แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา
ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.นายสุวัตชัย อายุ 46 ปี 2.นายเฉลิมชาติ อายุ 60 ปี 3.น.ส.ยา อายุ 34 ปี สัญชาติกัมพูชา 4.นางคอน อายุ 47 ปี สัญชาติกัมพูชา 5.น.ส.จันตรี อายุ 30 ปี สัญชาติกัมพูชา 6.น.ส.โซเวี๊ยต อายุ 26 ปี สัญชาติกัมพูชา 7.นายมิก อายุ 35 ปี สัญชาติกัมพูชา 8.นายวัน อายุ 34 ปี สัญชาติกัมพูชา และ 9.นางฮัง อายุ 35 ปี สัญชาติกัมพูชา
พร้อมด้วยของกลาง รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร (ป้ายเหลือง) สีขาว จำนวน 13 ที่นั่ง โดยกล่าวหาผู้ถูกจับกุมที่ 1 และ 2 ฐานเป็นตัวการร่วมตาม ป.อาญา ม.83 ตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ม.64 ว่า “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และ “ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสุรินทร์ เรื่อง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ที่ 1289/2563 ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2563”
ผู้ถูกจับกุมที่ 3-7 ว่า “ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสุรินทร์ เรื่อง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ที่ 1289/2563 ตามมาตรา 52 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2563”
ผู้ถูกจับกุมที่ 8 ว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2563 ตามข้อ 5 ” และ “ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสุรินทร์ เรื่อง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ที่ 1289/2563 ตามมาตรา 52 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2563”
ผู้ถูกจับกุมที่ 9 ว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสุรินทร์ เรื่อง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ที่ 1289/2563 ตามมาตรา 52 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2563”
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ. บก.สส.สตม.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีขบวนการลักลอบนำพา ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ตระเวนรับบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา มาจากพื้นที่โซนภาคตะวันออก ระยอง ชลบุรี และกรุงเทพฯ เพื่อจะนำหลบหนีออกไปยังประเทศกัมพูชา ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยใช้รถตู้โดยสาร หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร (ป้ายเหลือง) ใช้เส้นทาง ถนนทางหลวงหมายเลข 2 และ 24 ผ่านพื้นที่ จ.นครราชสีมา , จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการควบคุมและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ. บก.สส.สตม.จึงได้ติดตาม วางกำลัง ดักซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์ตลอดเส้นทาง จนพิสูจน์ทราบได้ว่ามีแรงงานต่างด้าวอยู่บนรถตู้ต้องสงสัยคันดังกล่าวจริง เมื่อถึงบริเวณสถานที่จับกุมบริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันและแก๊ส ถนนโชคชัย-เดชอุดม ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ใช้รถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ สตม. แสดงตัว ให้สัญญาณเพื่อหยุดรถคันดังกล่าว และทำการแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบคนขับพบว่ามี นายเฉลิมชาติ เป็นผู้ขับรถตู้ และพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาอีก 7 คน นั่งอยู่ในรถ โดยนายเฉลิมชาติ ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างมาจากนายสุวัตชัย ให้ตระเวนรับบุคคลต่างบุคคลสัญชาติกัมพูชา ทั้ง 7 คน มาจาก จ.ชลบุรี และกรุงเทพฯ เพื่อมาส่งต่อที่บริเวณ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จึงได้สืบสวนขยายผลต่อไปจนกระทั่งจับกุมตัวนายสุวัตชัย ได้ ณ จุดรับเงินบริเวณปั้มน้ำมันใน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พร้อมนำตัวผู้ตองหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปราสาท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี