23 มิถุนายน 2564 สถานีตำรวจภูธรลานสักได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบซากควาย ลอยขึ้นอืดมาติดอยู่ที่ฝายคลองน้ำตะคล้อ หมู่ 4 บ้านตะคล้อ ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากที่ได้รับแจ้ง ร.ต.ท.วิทโชติ สมบรรดาศักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ลานสัก ไปยังที่เกิดเหตุ พบเป็นฝายคลองระบายน้ำ พบซากควาย 1 ตัว ที่ปั้นท้ายและขาหลังโดนเฉือนเนื้อหายไป  ลอยติดแถวบริเวณปากท่อระบายน้ำ ใกล้กันพบกระเพาะควายลอยอยู่ในน้ำ ส่งกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณนั้น

จากการสอบถามนายสวาท แจ้งถิ่นป่า อายุ 59 ปี ว่าตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ดังกล่าว  ซึ่งก่อหน้านั้นได้ ได้มีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้าน มานั่งตกปลาอยู่แถวบริเวณหน้าฝาย แล้วเกิดเห็นควายตาย 1 ตัวลอยน้ำมาติดอยู่ที่หน้าฝายแต่ช่วงนั้นเนื้อควายยังไม่ส่งกลิ่นเหม็น  จึงกลับบ้านไปเรียกพรรคพวกมาอีก 4-5 คน เพื่อลงไปในน้ำ แล้วลงมือเฉือนเนื้อควาย ช่วงปั้นท้ายและขาหลังไป แล้วก็ทิ้งส่วนที่เหลือลอยเน่าเหม็นติดอยู่ในคลองน้ำ 

ล่าสุดยังไม่มีใครมาแจ้งว่าควายหายเลย ตนเองจึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมปศุสัตว์แพทย์อำเภอลานสัก ให้มายังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบ พร้อมหาเจ้าของควายด้วย

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ร.ต.ท.วิทโชติ สมบรรดาศักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ลานสัก และแพทย์ปศุสัตว์อำเภอลานสัก ได้ตรวจสภาพศพของควายตัวดังกล่าว อายุประมาณ 7 เดือน น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม สภาพปั้นทายและขาหลังโดนเฉือนเนื้อหายไป สภาพมีเนื้อย่อยลำตัวเขียว ขึ้นอืด ตายมาประมาณ 2-3 วัน ไม่พบโรคระบาดอยู่ในตัวควาย ตัวดังกล่าว จึงได้ให้ผู้นำหมู่บ้านนำควายตัวดังกล่าว ไปทำการฝังดิน

ล่าสุดได้มีชาวบ้านมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ว่าก่อนก่อนนี้ ทางฝายคลองน้ำตะคล้อนั้น เป็นคลองยาวเชื่อมต่อไปอีกตำบลหนึ่ง ช่วงนั้นยังไม่มีน้ำ เนื่องจากทางหน่วยงานพึ่งจะทำการปล่อยน้ำลงมาในฝายให้กับชาวบ้านเพื่อทำการเกษตร คาดว่า จะมีกลุ่มชาวบ้านอีกตำบลหนึ่ง  ได้นำฝูงควายมากินหญ้าแถวบริเวณในฝาย ขณะที่น้ำยังไม่มี จังหวะนั้นกระแสน้ำในฝายน่าจะเริ่มปล่อยลงมาแรง คาดว่าควายน่าจะหลงฝูง แล้วถูกกระแสน้ำพลัดควายหายลงไปในคลอง จนทำให้ควายตัวดังกล่าวเสียชีวิตลอยน้ำ แล้วถูกชาวบ้านที่พบเห็นก่อน ได้ทำการเฉือนเนื้อควายที่ตายแล้วช่วงปั้นท้าย และขาหลังไป และได้ทิ้งส่วนลำตัวไว้ในน้ำกลัวความผิด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับแจ้ง ว่าใครมาแจ้งว่าควายหายดังกล่าว