กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.๒ บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์, พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.กรกช ยงยืน, พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก, พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.๒ บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ สว.กก. 2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นางปารมี (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงดุสิตที่ จ.๓1/๒๕๖2 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ๒๕๖2 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้และธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น” ที่บริเวณริมถนนแฮปปี้แลนด์สาย 2 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปี กรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2564 นายรณณรงค์ฯ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อม น.ต.สมรักษ์ หรือบาส (ผู้เสียหาย) นักมวยชื่อดังเจ้าของวลีเด็ด “ไม่ได้โม้” ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีนางปารมี หรือหญิง (ผู้ต้องหา) ซึ่งได้อ้างตัวเป็นยี่ปั๊วหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำให้ น.ต.สมรักษ์ฯ สูญเงินไปกว่า 11.75 ล้านบาท
โดย น.ต.สมรักษ์ฯ (ผู้เสียหาย) ให้การว่า “ก่อนหน้านี้มีคนสนิทแนะนำว่า หากอยากลงทุนลอตเตอรี่ให้ติดต่อกับนางปารมีฯ เนื่องจากเป็นยี่ปั๊วมีโควตาลอตเตอรี่จำนวนมาก และนางปารมีฯ สามารถซื้อลอตเตอรี่ได้ราคาต่ำกว่ายี่ปั๊วหน้าสำนักงานสลากกินแบ่ง น.ต.สมรักษ์ฯ จึงได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนคนสนิท รวมทั้งคนในวงการกีฬา มาร่วมลงทุน โดยได้สั่งซื้อลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งในการสั่งซื้อดังกล่าว นางปารมีฯ ได้ส่งลอตเตอรี่ให้ครบตามจำนวน จึงทำให้กลุ่มที่ร่วมลงทุนมั่นใจว่ามีการซื้อขายกันจริง ไม่มีการโกงแต่อย่างใด หลังจากนั้นจึงได้มีการชักชวนผู้ที่สนใจมาร่วมลงทุนมากขึ้น และผู้ร่วมลงทุนส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าการที่ น.ต.สมรักษ์ฯ เป็นคนกลางสั่งซื้อ คงไม่มีใครกล้าโกง
ต่อมาเมื่อ น.ต.สมรักษ์ สั่งซื้อลอตเตอรี่มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท กับนางปารมีฯ ในครั้งนี้ น.ต.สมรักษ์ฯ กลับไม่ได้รับลอตเตอรี่แต่อย่างใด เมื่อพยายามติดต่อขอเงินคืน นางปารมีฯ ก็ได้พยายามบ่ายเบี่ยง อ้างว่านายของนางปารมีฯ กำลังประสานและดำเนินการคืนเงินให้ หลังจากนั้นนางปารมีฯ ก็ได้ทยอยชดใช้เงินให้กับตนจนเหลือยอดค้างอีกจำนวน 11.75 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน นางปารมีฯ ก็ไม่มีการชดใช้ยอดเงินที่เหลืออยู่ ตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าปรึกษาทนายฯ และตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด”
จนกระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก. 2 บก.ป. ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ลงพื้นที่สืบสวนกรณีดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าอาจเป็นเครือข่ายเดียวกันกับ การโกงลอตเตอรี่ ใน จ.ตราด แต่จากการสืบสวนในเบื้องต้น กรณีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาเรื่อยมา จนทราบว่าผู้ต้องหาอยู่บริเวณพื้นที่ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปี กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา จึงได้ทำการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นางปารมีฯ เคยก่อเหตุมาแล้วหลายคดี หลายครั้ง และหลายท้องที่ ซึ่งพบว่ามีหมายจับจำนวน 9 หมายจับ ขาดอายุความแล้ว 5 หมายจับ คงเหลือหมายจับที่ยังต้องการตัวอีก 4 หมายจับ ซึ่งคดีส่วนใหญ่เป็นคดีเช็ค
มีหมายจับที่ยังต้องการตัวอีกจำนวน 3 หมายจับ ดังนี้
1. หมายจับของ ศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ 7/2563 ลง 14 มกราคม 2563 ข้อหา “ยักยอก”
2. หมายจับของ ศาลแขวงดุสิตที่ 306/2562 ลง 16 กันยายน 2562 ข้อหา “พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 และหลบหนีไม่มาศาล”
3. หมายจับของ ศาลแขวงดุสิต ที่ 156/2562 ลง 25 กันยายน 2562 ข้อหา “พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี