“โคเด็กซ์”ปรับค่าปนเปื้อนตะกั่ว
ครอบคลุมผัก-ผลไม้กระป๋อง
มกอช.เตือนเร่งปรับตัวรับมือ
นายสัตวแพทย์ศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า จากการที่ มกอช.พร้อมผู้แทนกรมปศุสัตว์ คณะกรรมการอาหารและยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการโคเด็กซ์สาขาสารปนเปื้อน (Codex Committee on Contaminants in Foods ; CCCF) ครั้งที่ 7 ที่กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย โดยที่ประชุมมีการพิจารณาการกำหนดค่าปริมาณปนเปื้อนสูงสุด (Maximum Level หรือ ML) ของตะกั่วในอาหาร ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ปรับลดค่าปริมาณปนเปื้อนสูงสุดของตะกั่วในน้ำผลไม้และเนกต้าชนิดพร้อมบริโภค ไม่รวมน้ำผลไม้จากเบอรี่และผลไม้ขนาดเล็ก กำหนดให้ปรับลดจากเดิม 0.05 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เป็น 0.03 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
นอกจากนั้น ยังเห็นชอบให้ปรับลดค่าปริมาณปนเปื้อนสูงสุดของตะกั่วในผลไม้บรรจุในภาชนะปิดสนิท และผลไม้รวมบรรจุในภาชนะปิดสนิท ไม่รวมเบอรี่และผลไม้ขนาดเล็กบรรจุในภาชนะปิดสนิท โดยปรับลดจากเดิม 1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เป็น 0.1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ขณะเดียวกันยังปรับลดค่าปริมาณปนเปื้อนสูงสุดของตะกั่วในผักบรรจุในภาชนะปิดสนิท รวมถึงผักรวมบรรจุในภาชนะปิดสนิท ไม่รวมผักตระกูลกะหล่ำ ผักใบ และผักประเภทถั่วบรรจุในภาชนะปิดสนิท ซึ่งกำหนดปรับลดลงจาก 1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เป็น 0.1 มิลลิกรัม/กิโลกรัมด้วย
นายสัตวแพทย์ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโคเด็กซ์สาขาสารปนเปื้อนได้มีมติผ่านร่างมาตรฐานนี้ไปให้คณะกรรมาธิการโคเด็กซ์ (CAC) พิจารณารับรองเพื่อประกาศใช้เป็นมาตรฐานโคเด็กซ์ต่อไป ซึ่ง มกอช.จะติดตามผลการรับรองของ CAC อีกครั้งในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ที่สำคัญ จำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับเงื่อนไขและสถานการณ์การค้าโลกในอนาคต เนื่องจากกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ ได้สนับสนุนการปรับลดค่าปริมาณปนเปื้อนสูงสุดของตะกั่วในอาหาร โดยอ้างว่าไม่ทำให้เกิดข้อจำกัดทางการค้าระหว่างประเทศ
“ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ของไทย รวมถึงห้องปฏิบัติการ (Lab) ทดสอบสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อการส่งออก จำเป็นต้องติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเป็นไปตามกฎระเบียบและเงื่อนไขทางการค้าระหว่างประเทศ เพื่อรักษาตลาดส่งออก และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการส่งออกผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ของไทยในระยะยาว” เลขาธิการ มกอช.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี