เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มีนโยบายหลักและ7 วาระเร่งด่วน (Quick Win) ให้หน่วยงานต่าง ๆ ขับเคลื่อนให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในเดือนกันยายนนี้นั้น ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ขับเคลื่อนนโยบายโดยขณะนี้ สอศ.อยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (Center of Vocational Manpower Networking Management : CVM) จำนวน 25 แห่ง คาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้จะจัดตั้งศูนย์ CVM ทั้ง 25 ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศแล้วเสร็จ โดยศูนย์นี้ดำเนินการทั้งนโยบายหลักและวาระเร่งด่วน เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ขับเคลื่อนการศึกษาเพื่ออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้ผู้จบอาชีวศึกษามีอาชีพ และมีรายได้ที่เหมาะสม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
เลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบกับการรับนักเรียน นักศึกษาอาชีวะประจำปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวมลดลงกว่า 6% ซึ่งยอดการรับของนักเรียนอาชีวะภาครัฐไม่ต่างจากปีการศึกษา 2563 มากนัก และอาชีวะเราได้ปรับเน้นเรื่องคุณภาพนำปริมาณจึงไม่กังวล แต่พบว่ายอดการรับของอาชีวะเอกชน มีจำนวนผู้เรียนลดลงมาก เนื่องจากผู้ปกครองได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายการเรียนได้ ทั้งนี้ ตนไม่กังวลที่ยอดการรับนักเรียนอาชีวะปรับลดลงทุกปี เพราะยอดการรับนักเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ลดลงเช่นกัน สาเหตุที่ยอดการรับลดลง เพราะจำนวนเด็กที่เกิดน้อยลง ยอดการรับนักเรียนจึงลดลงตามสภาพการเกิดของประชากรประเทศ
สำหรับการเรียนออนไลน์ของนักเรียน นักศึกษาอาชีวะก็ยังไม่พบปัญหาเนื่องจากวิทยาลัยแต่ละแห่งมีความพร้อมในเรื่องของระบบอินเตอร์เน็ต เพราะมีสาขาที่เกี่ยวข้องเปิดสอนอยู่แล้ว ครูจึงมีความพร้อม และผู้เรียนก็เป็นเด็กโต พบว่า 97% มีสมาร์ทโฟน์สามารถเรียนออนไลน์ได้ ส่วนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน์ซึ่งก็มีอยู่จำนวนน้อย จึงจัดให้มาเรียนที่วิทยาลัย และในช่วงเรียนออนไลน์ก็ให้เรียนวิชาสามัญก่อน ส่วนวิชาปฏิบัติก็ให้สอนทฤษฎีไปก่อน หากสถานการการณ์แพร่ระบาดลดลงสามารถเข้าในสถานศึกษาได้จึงเรียนปฏิบัติ
"ส่วนพื้นที่ จ.ภูเก็ต ในช่วงเดือน ก.ค.นี้ ให้เรียนออนไลน์ไปก่อน แต่หลังจากที่เปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์แล้วก็ให้เรียน On-site ซึ่งขณะนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาของอาชีวะฯ ใน จ.ภูเก็ต ฉีดวัคซีนแล้ว 98% ส่วนที่เหลือบางคนกำลังตั้งครรภ์ หรือมีโรคภูมิแพ้ร้ายแรงจึงยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และคนที่อายุเกิน 18 ปี ก็ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วทุกคนด้วย" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า สอศ.จะเร่งผลักดันการพิจารณาการสรรหานายกสภาสถาบันการอาชีวศึกษา จำนวน 14 แห่ง ซึ่งเว้นว่างมานานหลายปีด้วย โดยขณะนี้ นายรอยล จิตรดอน ประธานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้ลงนามประกาศคณะกรรมการ กอศ. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการได้มาขอนายกสภาสภาบันการอาชีวศึกษาที่เสนอชื่อ ผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกสภาการอาชีวศึกษา โดยให้คณะกรรมการ กอศ. สอศ. ผู้อำนวยการสถาบันการอาชีวศึกษา หรือผู้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสถาบันการอาชีวศึกษา ส่งแบบข้อมูลบุคคลการส่งแบบข้อมูลฯ พร้อมหลักฐานประกอบ มาที่ สอศ.ภายในที่ 2 กรกฏาคม นี้ โดยขณะนี้หมดเขตการส่งข้อมูลแล้ว สอศ.ก็จะรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อมา เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ กอศ.พิจารณาต่อไป
"การสรรหานายกสภาสถาบันการอาชีวศึกษา คณะกรรมการ กอศ.จะต้องร่วมกันลงคะแนนเสียง เพื่อสรรหานายกสภาสถาบันอาชีวศึกษาด้วย ซึ่งการประชุมลักษณะนี้ไม่สามารถจัดประชุมผ่านออนไลน์ได้ จะต้องเข้ามาร่วมประชุมและลงคะแนนเสียงด้วยตนเอง แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ไม่สามารถจัดการรวมกลุ่มคนจำนวนมากได้ สอศ.จึงต้องทำเรื่องขออนุญาตไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ก่อน ถึงจะสามารถจัดประชุมได้ ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา สอศ.จะดำเนินการสรรหาให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน" นายสุเทพ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี