‘ลำปาง’ออกประกาศ ตั้ง 4 ด่านตรวจ-คลอดมาตรการคัดกรองคนเข้าพื้นที่
12 กรกฎาคม 2564 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดลำปาง ลงนามในคำสั่งจังหวัดลำปาง เรื่องมาตรการตั้งด่านตรวจหรือจุดสกัดและมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดลำปาง
สาระสำคัญ คือ จังหวัดลำปางโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปางในคราวการประชุมครั้งที่ 31/2564 เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 มีคำสั่งมาตรการตั้งด่านตรวจหรือจุดสกัดและมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดลำปาง ดังนี้
1. การตั้งด่านตรวจหรือจุดสกัดการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดลำปาง จำนวน 4 ด่าน 1)ด่านตรวจสถานีตำรวจภูธรห้างฉัตร 2)ด่านตรวจปางมะโอ สถานีตำรวจภูธรแม่ทะ 3) ด่านตรวจนาแก สถานีตำรวจภูธรงาวและ 4)ด่านตรวจสถานีตำรวจแม่พริก เพื่อจัดระเบียบการเดินทางการจราจรการเฝ้าระวังหรือสังเกตอาการผู้เดินทางและพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรค
2. การคัดกรองการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดลำปาง
2.1มอบหมายสำนักงานขนส่งจังหวัดลำปางเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับท่าอากาศยานลำปางสถานีรถไฟลำปางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติงานตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดลำปางอย่างเข้มงวดรวมไปถึงให้ตรวจสอบและกำกับดูแลการให้บริการของผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะสำหรับการขนส่งคนโดยสารระหว่างจังหวัดซึ่งมีพื้นที่ต้นทางจากกรุงเทพฯจังหวัดปริมณฑลหรือพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเพิ่มความเข้มงวดเพื่อให้ผู้ประกอบการปฏิบัติรวมทั้ง การตรวจคัดกรองการเดินทางการจัดระบบและระเบียบให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและแนวปฏิบัติที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 กำหนด
2.2 มาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าสู่หมู่บ้าน/ชุมชน
1) การคัดกรองผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บูรณาการความร่วมมือของบุคลากรในหมู่บ้าน/ชุมชน ทุกภาคส่วน ได้แก่ ข้าราชการ สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่อาศัยในหมู่บ้าน/ชุมชน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล คณะกรรมการหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ฯลฯ ร่วมกันค้นหาและคัดกรองว่ามีผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง หรือคนในหมู่บ้านที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง เข้ามาพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชน หรือไม่
2) การปฏิบัติในกรณีที่หมู่บ้าน/ชุมชนใดมีผู้ที่เข้าข่ายตามข้อ 2.2 1) ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดทำบัญชีรายชื่อ เพื่อเฝ้าติดตามสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน นับแต่วันที่ผู้นั้นเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด และให้ขอความร่วมมือผู้นั้นให้งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ นอกหมู่บ้าน/ชุมชนไว้ก่อน หรือพักอาศัยอยู่แต่ในบ้านเรือนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้รายงานข้อมูลดังกล่าวให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อติดตามและเฝ้าระวังและให้ส่งข้อมูลให้อำเภอทราบ เพื่อบันทึกข้อมูลเข้าระบบรายงาน
3) การแจ้งเตือนราษฎรในหมู่บ้าน ให้กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ แจ้งเจ้าบ้าน หรือผู้ดูแลบ้าน ให้ปฏิบัติตามมาตรา 31 (1) แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
ว่ากรณีมีผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยเป็นโรคติดเชื้ออยู่ในบ้าน ให้รีบแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ-ตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อโดยทันทีและให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ
4) กรณีมีคนในหมู่บ้าน/ชุมชนได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการกับผู้ที่อยู่ในระยะใกล้ชิดกับผู้ป่วยตามมาตรการที่กระทรวง-สาธารณสุขได้กำหนดไว้ และให้แจ้งเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล เข้าไปดำเนินการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อพื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อไปทำกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโดยเร็ว
5) ในกรณีของชุมชนในเขตเทศบาลที่ไม่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้นายอำเภอแจ้งและประสานงานกับเทศบาลให้แจ้งประธานกรรมการชุมชน และคณะกรรมการชุมชน ดำเนินการตามข้อ 2.2 1) -4) เช่นเดียวกัน
3. มาตรการการเดินทางเข้าพื้นที่
3.1 บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด (บัญชีรายชื่อจังหวัดตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) (ศบค.) กำหนด) เมื่อเดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดลำปาง ให้ลงทะเบียนการเข้าพื้นที่ โดยสแกน QR CODE “ลำปางชนะ” และรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยทันที (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) พื้นที่ หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)) หรือแจ้งผ่านสายด่วนโควิด – 19 โทร. 093-1408023 โดยไม่ปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ในการเดินทางเพื่อพิจารณากลั่นกรองความเสี่ยงต่อการก่อกำเนิดโรค หรือตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธี Rapid Antigen Test และบุคคลดังกล่าวจะต้องกักกันตัวเองที่บ้าน/ที่พักอาศัยแบบเข้มงวด (Home Quarantine) หรือปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน และหากพบว่ามีอาการไม่ปกติให้ติดต่อบุคลากรทางการแพทย์ทันที รวมถึงต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขที่ประกาศอย่างเคร่งครัด
กรณีหากมีภารกิจจำเป็นต้องออกจากบ้าน/ที่พักอาศัย ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคทุกครั้ง และต้องมีเอกสารยืนยันกับเจ้าพนักงานควบคุมโรคเพื่อประกอบการพิจารณา ดังนี้ การตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธี RT-PCR ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยผลตรวจต้องเป็นเอกสารตัวจริงที่ออกโดยสถานที่ตรวจ ไม่สามารถใช้ผลตรวจทางอีเมล สำเนาถ่ายเอกสาร หรือ SMS มือถือได้ หรือ ยินยอมให้จังหวัดลำปางตรวจหาเชื้อโควิด - 19 โดยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง หรือ มีหลักฐานการฉีด-วัคซีนโควิด – 19 Sinovac /Sinopharm ครบ 2 เข็ม โดยหลังได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 มาแล้วเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป หรือ AstraZeneca/Pfizer/Moderna/Johnson and Johnson อย่างน้อย 1 เข็มมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป
3.2 บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (บัญชีรายชื่อจังหวัดตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) (ศบค.) กำหนด) เมื่อเดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดลำปางให้ลงทะเบียนการเข้าพื้นที่ โดยสแกน QR CODE “ลำปางชนะ” และรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยทันที (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) พื้นที่ หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือ แจ้งผ่านสายด่วนโควิด - 19 โทร. 093-1408023 โดยไม่ปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ในการเดินทางเพื่อพิจารณากลั่นกรองความเสี่ยงต่อการก่อกำเนิดโรค และบุคคลดังกล่าวจะต้องเฝ้าระวังอาการตนเอง (Self Monitoring) เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน หากมีอาการผิดปกติให้พบแพทย์ทันที อนึ่ง เนื่องจากบางพื้นที่อาจมีมาตรการเข้มข้น ดังนั้น ก่อนการเดินทางขอให้ตรวจสอบมาตรการชุมชนในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี