กรมชลประทานน้อมนำพระราชปณิธานในหลวง รัชกาลที่ 10 “สืบสาน รักษา และต่อยอด” ขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เผยดำเนินการมาแล้วกว่า 3,200 โครงการ มีราษฎรได้รับประโยชน์มากถึง 590,000 ครัวเรือน พร้อมเร่งเดินหน้าก่อสร้าง 3 โครงการลุ่มน้ำชีตอนบน
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดให้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดสัมฤทธิ์ผลสู่พสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดิน มาขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติที่ให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ยังค้างคาไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง มาดำเนินการให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายโดยเร็วที่สุด ส่วนโครงการที่ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ก็จะบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้กรมชลประทานยังจะดำเนินการต่อยอดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริไม่ว่าจะเป็น อ่างเก็บน้ำ ฝาย ประตูระบายน้ำ ที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว แต่ยังไม่มีระบบ
ส่งน้ำหรือระบบกระจายน้ำ ก็จะนำมาต่อยอดดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำหรือระบบกระจายน้ำ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริดังกล่าวได้เต็มศักยภาพ
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่า กรมชลประทานได้ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จไปแล้วมากกว่า 3,220 โครงการ สามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้นประมาณ 6,773 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) มีพื้นที่รับประโยชน์ 4.9 ล้านไร่ และมีราษฎรได้รับประโยชน์กว่า 590,000 ครัวเรือน ขยายพื้นที่ชลประทานได้กว่า 3.41 ล้านไร่ โดยในปี 2564 กรมชลประทานได้เร่งรัดขับเคลื่อนจำนวน 8 โครงการ สามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้น 11.56 ล้านลบ.ม. มีพื้นที่รับประโยชน์ 23,088 ไร่ ราษฎรได้รับประโยชน์กว่า 8,700 ครัวเรือน และสามารถขยายพื้นที่ชลประทานได้ 12,050 ไร่
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญๆ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในปัจจุบันนั้น มีหลากหลายโครงการกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะลุ่มน้ำชีตอนบนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ได้ดำเนินโครงการสำคัญๆถึง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ความจุ 70.21 ล้านลบ.ม. เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสนับสนุนสถานีสูบน้ำตามลำน้ำชี มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ฤดูฝน 75,000 ไร่ และในฤดูแล้ง 30,000 ไร่ ราษฎรได้รับประโยชน์ 27 หมู่บ้าน กว่า 22,000 คน ในพื้นที่ อ.หนองบัวระเหวอ.บ้านเขว้า และ อ.เมืองชัยภูมิ
โครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ มีความจุ 48 ล้านลบ.ม. เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภค-บริโภคและผลิตประปาในพื้นที่ตลอดทั้งปี สร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับภาคเกษตรกรรมในฤดูฝนกว่า 40,000 ไร่และในฤดูแล้งอีกกว่า 8,000 ไร่ โดยมีประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการประมาณ 5,145 ครัวเรือน หรือประมาณ 20,580 คน และโครงการอ่างเก็บน้ำลำเจียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชัยภูมิ ความจุ 45.17 ล้านลบ.ม สร้างปิดกั้นลำเจียงซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของลำน้ำชีในท้องที่ อำเภอภักดีชุมพล และ อำเภอหนองบัวแดง มีพื้นที่รับประโยชน์ 30,000 ไร่
“โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 3 โครงการในพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนบนดังกล่าว นอกจากจะสร้างประโยชน์ในด้านการเกษตร และการอุปโภค-บริโภคแล้ว ยังเป็นการสนับสนุน
แหล่งน้ำเพื่อการทำประมง ช่วยชะลอน้ำไม่ให้ไหลลงด้านล่างเร็วเกินไป สามารถบรรเทาอุทกภัยบริเวณพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งคาดว่าทั้ง 3โครงการจะแล้วเสร็จประมาณปี 2567” อธิบดีกรมชลประทานกล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี