วันนี้ 8 ก.ค.56 ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.เข้าพบ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง.เพื่อมอบหลักฐานเอกสารเพิ่มเติมในการตรวจสอบเส้นทางการเงินของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก หรือพระวิรพล สุขผล อายุ 34 ปี ประธานสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเอกสารมีความหนาหลายสิบหน้า พร้อมทั้งแผนผังจำลองเส้นทางการเงินของหลวงปู่เณรคำกับผู้ร่วมขบวนการ โดยให้หัวข้อว่าแผนยุทธการ เจาะเหลี่ยมทรชน กัลป์แก๊งอวดอุตตริ
นายสงกรานต์ กล่าวว่า หลวงปู่เณรคำ มีเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ หมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท ทองคำแท่ง 8,000 กิโลกรัม อสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อีก ซึ่งรวมมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท เป็นไปไม่ได้ที่หลวงปู่เณรคำ จะทำได้คนเดียว ต้องมีผู้ร่วมขบวนการ มีนายทุนที่คอยให้การสนับสนุน ซึ่งนายทุนอยู่ใน กทม.และปริมณฑล อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ทำไมต้องมีการระดมทองคำอย่างมากมาย เราได้เบาะแสมาแล้วว่านายทุนใหญ่เป็นใคร ซึ่งเงินที่ได้มาจะมาจากนอกระบบและในระบบ เช่นเงินมาจากการสร้างพระ กฐิน ผ้าป่า และการบริจาคจากความเชื่อความศรัทธา ที่เป็นเงินจำนวนมหาศาล โดยการทำเงินทองต่างๆเหล่านี้เข้าวัดทำให้บริสุทธิ์ จากนั้นก็จะมีนายทุน คือนาย “ว” มูลนิธิ และ บจก.นำเงินเหล่านี้ไปแปรสภาพจำหน่าย ถ่าย โอน ออกนอกประเทศ ตนได้มอบหลักฐานทั้งหมดนี้ให้ทางปปง.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบแล้ว
นายสงกรานต์ กล่าวต่อว่า พวกที่รับทรัพย์สินของหลวงปู่เณรคำไปให้มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตามไปด้วยอย่างแน่นอน โดยความผิดของหลวงปู่เณรคำมีข้อมูลความผิดหลายทิศทาง และมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากที่ผิดปกติ ซึ่งในวันอังคาร ที่ 9 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น.ตนและผู้ที่เกี่ยวข้องจะเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) เพื่อพูดคุยกับพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ซึ่งมีข้อมูลตรงกันเรื่องที่มาที่ไปของเงินเหล่านี้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า ในเบื้องต้นต้องขอบคุณนายสงกรานต์ ที่นำข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ มาให้ตรวจสอบ และมามอบให้ทาง ปปง.และพนักงานสอบสวน ซึ่งที่ผ่านมา หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน ก็ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานในการตรวจสอบเส้นทางการเงินของหลวงปู่เณรคำ มีความคืบหน้าไปมาก ควบคู่ไปกับการทำงานของตำรวจ บก.ป.ที่พิจารณาดำเนินคดีอาญา ซึ่งมีความก้าวหน้าของคดีไปมากแล้ว คดีนี้เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน และคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นหนึ่งในมูลฐานความผิดของการฟอกเงิน
ขณะที่ พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ซึ่งเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และพระก็มีชื่อเสียง จึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทาง ปปง.เราก็ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ปปส.ตรวจสอบว่ามีความเกี่ยงข้องกับยาเสพติด หรือไม่ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เกี่ยวกับเรื่องเด็กและสตรี คดีนี้เจ้าหน้าที่ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนที่รู้เบาะแสการกระทำผิดของหลวงปู่เณรคำ เข้าให้ข้อมูลโดยจะปกปิดเป็นความลับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี