กมว.ใช้ข้อบังคับพิจารณาประพฤติผิดจรรยาบรรณฉบับใหม่แล้ว พร้อมเร่งสางคดีเก่าให้จบ
วันที่ 8 ส.ค. 2568 รศ.ดร.ศิริเดช สุชีวะ ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ(กมว.) ครั้งที่ 8/2568 พร้อมด้วยคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ และมี ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เป็นกรรมการและเลขานุการการประชุม
โดยที่ประชุมได้ออกข้อบังคับเกี่ยวกับ จรรยบรรณฉบับใหม่ เป็นข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. .... โดยยกเลิกข้อบังคับเก่าทั้ง 3 ฉบับ มารวบเป็นฉบับใหม่ ซึ่งฉบับใหม่นี้ได้แก้ไขอันที่เป็นปัญหาเดิม มาเป็นกฏหมายหลักที่สำคัญในการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณ เพื่อทำให้การลงโทษผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณเกิดความสะดวกและรวดเร็วเป็นธรรมถูกต้องขึ้นกว่าเดิม เกิดความบริสุทธิยุติธรรมในเวลาที่สั้นลงกว่าเดิมและทันเหตุการณ์
“การมีผลบังคับใช้ข้อบังคับฉบับใหม่นี้ จะทำให้บวนการพิจารณาจรรยาบรรณได้ตั้งแต่ ทันที จนกระทั่งถึง 30 วัน แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ต้องไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มก็ไม่เกิน 3 เดือน ดังนั้น การที่ กมว.มีประกาศข้อบังคับฉบับใหม่นี้ออกมา จะทำให้คุรุสภาทำงานได้ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งข้อบังคับเกี่ยวกับจรรยบรรณฉบับใหม่นี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงนามประกาศใช้แล้ว และลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2568 เรียบร้อยแล้ว”
รศ.ดร.ศิริเดช กล่าวต่อว่า กมว.จะดำเนินการเชิงรุกในการสร้างความรู้ ความเชื่อ และทัศนคติที่ถูกต้องให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาเกี่ยวกับมาตรฐานและจรรยาบรรณ โดยใช้ AI เข้ามาช่วย มีการสร้างเป็นเรื่อง มีคุณครู 2 คน ที่เป็นตัวแทน ครูผู้ชาย ชื่อว่าคุณครูบรรณ และคุณครูผู้หญิงชื่อครูจรรยา ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เราจะใส่คอนเทนต์ผ่านคุณครูทั้งสองคนนี้เผยแพร่จรรยาบรรณ
“กมว.และ คุรุสภายุกใหม่ ได้นำเทคโนโลยี AI มาช่วยในเรื่องของการส่งเสริมจรรยาบรรณ เพื่อทำให้คุณครูตระหนักและให้ความสำคัญ และเพื่อตอบสนองนโยบายของ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมช.ศึกษาธิการ ที่ต้องการให้พัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ โดยยึดหลักกฎหมาย พ.ร.บ.ครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 อย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล นอกจากนี้ คุรุสภา ยังมี E-book รวบรวมกฏหมาย และการพิจารณาคดีใหม่ๆไปให้มหาวิทยาลัยที่ผลิตครู เพื่อให้นักศึกษาและคุณครูได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ด้วย”
ด้าน ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวว่า กมว.จะได้เร่งเคลียร์คดีเก่าที่ยังคั่งค้างอยู่ให้เสร็จโดยเร็ว จากคดีเก่าทั้งหมด 1,200 กว่าคดี เราทำลดลงเหลือเพียง 300 กว่าคดีแล้ว ซึ่ง กมว.กำลังเร่งล้างคดีเก่าโดยนำข้อบังคับใหม่มาใช้ในการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบรัดกุม และจะใช้เวลาพิจารณาสั้นลง ดังนั้น คดีที่สังคมสงสัยว่ามีความล่าช้า ปัญหานี้ก็จะหมดไป ความยุติธรรมและกาลเวลาในการพิจารณาที่สมควรก็จะเกิดขึ้น ซึ่งข้อบังคับใหม่นี้ถ้าไม่เกี่ยวกับคดีอาญาก็จะจบเร็วขึ้น หรือจบภายใน 3 เดือน
“วันนี้ กมว.ได้พิจารการประพฤติผิดจรรยาบรรณแยกเป็น ไม่มีมูล 2 ราย, ตักเตือน 2 ราย, ภาคทัณฑ์ 6 ราย, พักใช่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 1 ราย, เพิกถอนใบอนุญาตฯ 4 ราย(กรณีล่วงละเมิดทางเพศ,ทำร้ายร่างกาย, ปลอมแปลงเอกสารทั้งที่ไม่เคยเป็นครูมาก่อน กรณีนี้ทางต้นสังกัดจะรับไปดำเนินการทางกฏหมายต่อไปเพราะเป็นคดีอาญา) นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้งอนุกรรมการสอบสวน 3 ราย ผลการพิจารณาประพฤติผิดในวันนี้ เป็นคดีเก่าที่คั่งค้างอยู่ แต่คดีใหม่ที่มีหลักฐานเชิงประจักที่ออกสื่อต่างๆเผยแพร่ เราได้มีการตรวจสอบเชิงรุก คดีความใหม่จึงลดลง เหลือแต่ตดีเก่าที่จะเร่งเคลียร์ให้หมด ทั้งนี้ อยากให้ต้นสังกัดของผู้กระทำผิดช่วยด้วย เพื่อให้การพิจารณาของเราถูกต้องรวดเร็วยิ่งขึ้น” ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่า
ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้มีมติห็นชอบการอนุมัติออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา โดยเลขาธิการคุรุสภา จำนวน 24,986 ราย ให้แก่ผู้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตและขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่สำนักงาน
เลขาธิการคุรุสภาตรวจสอบแล้ว มีคุณสมบัติครบถ้วนและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้
ขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา จำนวน 10,167 ราย เป็นครู จำนวน 9,254 ราย, ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 666 ราย
, ผู้บริหารการศึกษา จำนวน 166 ราย, ศึกษานิเทศก์ จำนวน 81 ราย
ต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา จำนวน 14,819 ราย เป็นครู จำนวน 13,278 ราย, ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1,384 ราย, ผู้บริหารการศึกษา จำนวน 72 ราย, ศึกษานิเทศก์ จำนวน 85 ราย
นอกจากนี้ อนุมัติออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้นให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพครู จำนวน 1 ราย โดยให้ใบอนุญาตมีอายุนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ มีมติอนุมัติออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี