อัยการคดีปราบปรามการทุจริตเตรียมยื่นฟ้อง "วิรัช รัตนเศรษฐ" ประธานวิปรัฐบาลคดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนเขตพื้นที่การศึกษา 2 เมืองโคราช ส่วนผอ.โรงเรียน และคนที่เกี่ยวข้องโดนข้อหาเป็นผู้สนับสนุน เรียกมารายงานตัว 14 ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการสูงสุด(อสส.) ได้มีความเห็นสั่งฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือประธานวิปรัฐบาล กับพวกผู้ถูกกล่าวหารวม 88 คน ในคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษา 2 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จ.นครราชสีมา รวม 7 สำนวนแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรายละเอียดร่างคำฟ้อง เนื่องจากคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหาจำนวนมาก เพื่อให้คำฟ้องมีความรอบครอบครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนเสนอให้อัยการสูงสุด(อสส.)เซ็นลงนามในคำฟ้อง เพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า ทางอัยการได้แจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 88 คน มาพบอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ถนนรัชดาภิเษก ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น. โดยจะนำคำฟ้องและตัวผู้ถูกกล่าวหาไปยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯงแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงทางการเมือง(อม.) ตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีนี้ทาง ปปช.ได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมชี้มูลความผิดนายวิรัตน์กับพวก รวม88 คน ให้อัยการสูงสุด พิจารณาการทุจริตงบประมาณปี 2555 จัดสร้างสนามฟุตซอลให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา 18 จังหวัด มูลค่า 4459 ล้านบาท รวมทั้งโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 จ.นครราชสีมาด้วย แต่ปรากฏว่า การสร้างสนามฟุตซอล ใน จ.นครราสีมา กลับสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถใช้งาน เมื่ออัยการสูงสุดรับสำนวนแล้วก็ส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริตพิจารณา โดยมีนางสิริญา อินทามระ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตเป็น หัวหน้าคณะทำงาน และตั้งคณะทำงานอัยการพิจารณาร่วมกับ ปปช. พบข้อสมบูรณ์หลายข้อ และได้มีการสอบสวนเพิ่มเติม จนที่สุดแล้วคณะทำงานร่วมมีมติสั่งฟ้อง นายวิรัช ฐานทุจริตปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนผอ.โรงเรียน และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง สั่งฟ้องข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้มีการทุจริตรวม 7 สำนวนเสนออัยการสูงสุดพิจารณา โดยอัยการจะรวมสำนวนฟ้องเป็นคดีเดียวกัน เนื่องจากมีพยานหลักฐานต่างๆคล้ายกัน และห้วงเวลาเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการพิจารณา โดยขณะนี้สำนักงานอัยการพิเศษคดีปราบปรามการทุจริต 2 กำลังตรวจร่างคำฟ้อง โดยคาดว่า จะสามารถนำสำนวนไปยื่นฟ้องนายวิรัชกับพวก ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง(อม.)ได้ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ส่วนการนำตัวนายวิรัตน์ กับพวกผู้ถูกกล่าวหา ทาง ปปช. จะเป็นผู้นัดนายวิรัตน์ กับพวกเอง อย่างไรก็ตามการยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาคดีอาญานักการเมือง(อม.) ตามกฎหมายสามารถยื่นฟ้องสำนวนต่อศาลฎีกาฯได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวผู้ถูกกล่าวส่งศาล แต่หากภายหลังศาลฎีกาฯ รับสำนวนไว้พิจารณา และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีมติตั้งองค์คณะผู้พิพิพากษาขึ้นพิจารณา และนัดพิจารณาคดีครั้งแรกแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่มาศาลตามนัด ศาลอาจพิจารณาออกหมายจับก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ดุลพินิจขององค์คณะฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี