การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) อย่างหนักอยู่ในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหน่วยงานราชการแทบทุุกหน่วยงานก็ว่าได้ รัฐบาลมีนโยบายให้ทำงานที่บ้าน (WFH) เพื่อลดการการแพร่ระบายของ COVID-19
กรมชลประทาน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการน้ำของประเทศก็เช่นเดียวกันได้รับผลกระทบในการทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของCOVID-19ดังกล่าว เนื่องจากบุคลากรส่วนใหญ่จะต้องทำงานที่บ้าน และบางส่วนยังต้องกักตัวอีกด้วย
แต่การบริการจัดการน้ำของกรมชลประทานยังสามารถขับเคลื่อนได้โดยไม่สะดุด เพราะได้มีการนำเทค โนโลยีสมัยใหม่มาใช้
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมชลประทานได้การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ก็เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อันจะเกิดขึ้นในอนาคตมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การดำเนินการติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ โดย ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(Smart Water Operation Center : SWOC ) ที่ดำเนินการร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information Communication Technology : ICT) เพื่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น ระบบโทรมาตรและ CCTV เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการพยากรณ์แบบ Real Time รวมทั้งการพัฒนาระบบ IOT (Internet Of Thing) และระบบSCADA เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีใช้เทคโนลียีที่ทันสมัยด้านการสำรวจ ติดตามสถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำและในลำน้ำ ตลอดจนการเพาะปลูก โดยใช้อากาศยานไร้คนขับ ทุ่นวัดระดับน้ำโดยใช้พิกัดดาวเทียม และการใช้โดรน ดำเนินการโดยสำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยา
รวมทั้งยังได้ดำเนินการตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อน กรมชลประทานใช้ระบบMechatronics ตรวจดูโครงสร้างเขื่อน เพื่อตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อนให้มีความพร้อมในการกักเก็บน้ำและการระบายน้ำ โดยข้อมูลในทุกส่วนงานจะถูกบูรณาการในรูปแบบ Big Data โดยมี SWOC เป็นศูนย์กลาง ช่วยให้บริหารจัดการน้ำของกรม ชลประทานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
SWOC ก่อตั้งในปี 2557 มีการพัฒนาระบบ ICT มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา ทำหน้าที่เปรียบเสมือนเลขานุการ ทำหน้าที่บูรณาการกับหน่วยงานภายในกรมชลประทาน และนอกกรมชลประทาน ในการบูรณาการข้อมูล ติดตามสถานการณ์น้ำ และการบริหารจัดการ
“ภายใต้สภาวะโรคระบาดCOVID-19ในปัจจุบัน การสั่งการ ติดตามงานต่าง ๆ จากกรมชลประทานโดยอธิบดีและรองอธิบดีกรมชลประทานทุกสายงาน สามารถดำเนินการผ่าน SWOC ที่ตั้งอยู่ในส่วนกลาง และSWOC ของสำนักชลประทานทั่วประเทศรวม 17 แห่ง รวมถึงการประชุมผ่านวิดีโอร่วมกับหน่วยงานของกรมชลประทานทั่วประเทศได้โดยไม่ต้องเดินทางเข้า-ออกในพื้นที่เสี่ยง” ดร.ทวีศักดิ์กล่าว
กรมชลประทานยังนำเทคโนโลยีไปใช้ในเรื่องการมีส่วนร่วมของเกษตรกรผู้ใช้น้ำ โดยได้ออกแบบ Application ที่ใช้งานบนสมาร์ทโฟน เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลสถานการณ์น้ำ สภาพการส่งน้ำ ระดับน้ำ ระบบโทรมาตร ตลอดจนการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของในระบบชลประทาน นอกจากนี้ Application ยังเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และ GISDA เพื่อให้เกิดความถูกต้องแม่นยำแก่ผู้รับข่าวสาร
รวมทั้งมีการนำ แพลทฟอร์ม LINE Messenger มาใช้ในการสื่อสารระหว่างกรมชลประทานกับเกษตรกร กลุ่มผู้ใช้น้ำ เพื่อเว้นระยะห่างลดการพบปะแบบตัวต่อตัว ตามมาตรการของรัฐบาล ในขณะที่การขับเคลื่อนงานยังเดินหน้าต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐศักดิ์ พลสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี