กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.อ.ปิยะพล แป้นแก้ว, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ทศพล กิติลาภ สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.ธนาคาร อุชณรัศมี, ร.ต.อ.ฟ้าปรเมศวร์ ภูรินท์ชินธนโชติ รอง สว.กก.6 บก.ป.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายชนัชญ์กรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปากพนัง ที่ 16/2558 ลง 27 มกราคม 2558 ซึ่งถูกกล่าวหาว่า “ร่วมกันนำหรือพาบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่าเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และ ร่วมกันค้ามนุษย์”
สถานที่จับกุม หน้าอู่ซ่อมรถ ม.5 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จับกุมเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 09.30 น.
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อปี พ.ศ.2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันสกัดจับขบวนการขนชาวโรฮิงญา จำนวน 97 คน จาก จ.พังงา เพื่อส่งไปยัง จ.สงขลา ได้บนถนนสายนครศรีธรรมราช - สงขลา โดยเมื่อทำการสืบสวนขยายผล พบว่า นายสุนันท์ฯ หรือโกมิตร นักธุรกิจชื่อดัง จ.พังงา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการขนย้ายชาวโรฮิงญาดังกล่าว ซึ่งเป็นเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ในภาคใต้รายใหญ่ มีสมาชิกจำนวนมากอยู่ในหลายจังหวัด และมีการแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ โดยขบวนการดังกล่าวรับเป็นธุระจัดหา ขนย้าย และลำเลียงแรงงานต่างด้าว ทั้งชาวโรฮิงญาและชาวเมียนมาร์ซึ่งลักลอบเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย และจากการสืบสวนพบว่า นายชนัชญ์กรณ์ฯ (ผู้ต้องหารายนี้) เป็นหนึ่งในขบวนการดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับนายชนัชญ์กรณ์ฯ ตามหมายจับดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศพดส.ภ.8 ทำการสืบสวนติดตามผู้ต้องหารายนี้ โดยทราบว่า นายชนัชญ์กรณ์ฯ ได้หลบหนีการจับกุมมาเช่าห้องพักอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ในวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการลงพื้นที่จับกุมนายชนัชญ์กรณ์ฯ ขณะทำงานอยู่ที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวไทร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา “ร่วมกันนำหรือพาบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่าเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหา “ร่วมกันค้ามนุษย์” โดยให้การว่าตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ตนทราบแค่ว่าเพื่อนชวนให้ไปช่วยขับรถนำ และช่วยแจ้งเบาะแสการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่เท่านั้น โดยตนได้ค่าจ้างเป็นเงินแล้วแต่จะตกลงกันเป็นการตอบแทน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า เมื่อ พ.ศ.2556 นายชนัชญ์กรณ์ฯ เคยมีประวัติถูกจับกุมในความผิดฐานลักลอบนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี