ตำรวจ สภ.สมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งเพิ่ม 2 ข้อหาหนักทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายและสร้างความรุนแรงในครอบครัวกับพ่อเลี้ยงเด็กหญิงวัยขวบเศษ หลังผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตพบสมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง โดยเจ้าตัวรับสารภาพก่อนเกิดเหตุผลักเด็กล้มหัวกระแทกพื้น และสอบพยานแวดล้อมระบุพ่อเลี้ยงเคยทำร้ายร่างกายเด็กบ่อยครั้ง ขณะที่ผลการพิสูจน์ขนเพชรในช่องคลอด และการตรวจหาร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ ยังคงรอผลตรวจด้านนิติวิทยาศาสตร์

จากกรณีเด็กหญิงวัย 1 ขวบเศษ อยู่ในพื้นที่ ต.โนนแหลมทอง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตอย่างปริศนาโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะถูกนำตัวมาส่งโรงพยาบาลสมเด็จ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ก่อนที่พนักงานสอบสวน สภ.สมเด็จ ร่วมกับทีมแพทย์ทำการชันสูตร แต่กลับพบความสงสัยในการเสียชีวิต และตรวจตามร่างกายพบวัตถุสงสัย ซึ่งเป็นขนเพชรอยู่ในช่องคลอด และอวัยวะเพศมีร่องรอยคล้ายถูกกระทำชำเราก่อนเสียชีวิต แต่ทางญาติกลับไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงอายัดศพเด็กไว้พร้อมกับส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด

ต่อมา พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามคดี พร้อมกำชับให้ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.สมเด็จ เร่งคลี่คลายคดี ซึ่งตำรวจได้เรียกตัว น.ส.ปรางแก้ว มาศประสงค์ อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นแม่แท้ๆของเด็ก และนายจีรพันธุ์ แจ่มแจ้ง อายุ 25 ปี พ่อเลี้ยงของเด็ก มาสอบปากคำอย่างละเอียด พบมีประวัติเสพยาทั้งสองคน ส่วนพ่อเลี้ยงยอมรับเคยทำร้ายร่างกายเด็ก เบื้องต้นดำเนินคดีเสพยาและนำตัวฝากขังที่เรือนจำโครงสร้างเบาโคกคำม่วง

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. น.วันที่ 23 ส.ค.64 ที่เรือนจำโครงสร้างเบาโคกคำม่วง ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.สมเด็จ และ ร.ต.อ.นิคม ระมัยวงค์ ร้อยเวร สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของคดีนำเอกสารสำนวนคดี และหลักฐาน เข้าแจ้ง 2 ข้อหาเพิ่มประกอบด้วย 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และ 2.สร้างความรุนแรงในครอบครัวกับนายจีรพันธุ์ แจ่มแจ้ง อายุ 25 ปี พ่อเลี้ยงของเด็กหญิงวัยขวบเศษ หลังผลชันสูตรพบสาเหตุที่เด็กเสียชีวิตเกิดจากสมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และพยานแวดล้อมยืนยันพ่อเลี้ยงเคยทำร้ายร่างกายเด็กบ่อยครั้ง ประกอบกับเจ้าตัวรับสารภาพว่าก่อนเด็กเสียชีวิต 2 วัน ได้ผลักเด็กล้มหัวกระแทกพื้น

พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวทาง พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างรัดกุม และให้ความเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและสังคมให้ความสนใจ ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุและมีการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำบุคลคลที่เกี่ยวข้อง พบว่าที่ผ่านมาพ่อเลี้ยงเคยทำร้ายร่างกายเด็กบ่อยครั้ง จนขาเจ็บ หน้าบวม รวมทั้งจากการสอบปากคำมารดาของเด็กหญิงอย่างละเอียด และสอบปากคำนายจีรพันธุ์พ่อเลี้ยงเด็กก็รับว่าก่อนที่เด็กเสียชีวิต 2 วัน คือวันที่ 14 ส.ค.64 ได้ใช้ไม้คันเบ็ด และไม้แขนเสื้อตีเด็ก ก่อนจะผลักเด็กล้มหัวกระแทกพื้นในบ้านจนได้รับบาดเจ็บ กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งสามารถเชื่อมโยงพยานหลักฐานทุกอย่าง ว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กหญิง เกิดจากการถูกนายจีรพันธุ์ทำร้ายร่างกาย

พ.ต.อ.ชัยยุทธ กล่าวอีกว่า หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนดังกล่าว เบื้องต้นได้ขออำนาจศาลเพื่อขอออกหมายจับนายจีรพันธุ์พ่อเลี้ยงเด็ก โดยศาลได้พิจารณาว่าเนื่องจากนายจีรพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำโครงสร้างเบาโคกคำม่วง จึงไม่ต้องออกหมายจับก็สามารถทำได้ โดยพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สามารถที่จะนำสำนวนเข้าไปแจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้ต้องหาได้ 

ดังนั้น ในวันนี้หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานและจัดทำสำนวนเรียบร้อย จึงได้เข้าประสานเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำโครงสร้างเบาโคกคำม่วง เพื่อนำตัวนายจีรพันธุ์พ่อเลี้ยงเด็กมารับทราบข้อหา ซึ่งนายจีระพันธ์รับสารภาพ โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งเพิ่ม หลังจากที่ถูกจับกุมและคุมขังในข้อหาเสพยาเสพติด เพิ่มอีก 2 ข้อหาคือทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และสร้างความรุนแรงในครอบครัว

พ.ต.อ.ชัยยุทธ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการสงสัยการกระทำอื่นกับเด็กหญิง เช่น มีการล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ รวมทั้งขนเพชรที่พบในช่องคลอด ซึ่งเป็นวัตถุต้องสงสัยนั้นเป็นของใคร เกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ เจ้าหน้าที่ยังคงรอผลการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะสามารถสรุปผลที่ชัดเจนได้ อย่างไรก็ตามประเด็นนี้นายจีรพันธุ์ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำอนาจารเด็กหญิงที่เป็นลูกเลี้ยง