จี้แรงงานอิสระ-ฟรีแลนซ์
ยื่นรับ5พันบ.ภายใน24ส.ค.
เงินเข้าพร้อมเพย์อีก 5,000 บาท สำหรับกลุ่มผู้ประกันสังคมมาตรา 39 พื้นที่สีแดงเข้มอีก 13 จังหวัด ขณะที่ รมว.แรงงาน เร่ง“แรงงานอิสระ-ฟรีแลนซ์” ยื่นคำขอประกันตน ม.40 รับ 5,000 บาท เริ่ม 24 สิงหาคมนี้
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ เสนออนุมัติวงเงิน 33,471 ล้านบาท เนื่องจากการประกาศเพิ่มจำนวนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จาก 13 จังหวัด ได้แก่ กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา เป็น 29 จังหวัด หรือเพิ่มขึ้น 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19
โดยกรอบวงเงินดังกล่าวจะนำไปจ่ายเยียวยาให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ซึ่งเป็นแรงงานอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ สัญชาติไทย เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 5,000 บาท โอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน โดยใน 29 จังหวัด แบ่งออกเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.4 ล้านคน และมาตรา 40 จำนวน 5.25 ล้านคน รวมทั้งสิ้น 6,694,200 คน
นอกจากนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 13 จังหวัด จะได้รับเงินเยียวยารวม 2 เดือน สำหรับมาตรา 39 ในกลุ่ม 13 จังหวัด จะโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีพร้อมเพย์ให้วันที่ 23 สิงหาคมนี้
ส่วนผู้ประกันตน มาตรา 40 ซึ่งเป็นแรงงานอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ สัญชาติไทย จำนวน 4.25 ล้านคน ใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม จะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 5,000 บาท โอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน โดยประกันสังคมโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีพร้อมเพย์ให้วันที่ 24-26 สิงหาคม ติดต่อกัน 3 วัน
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินตามมาตรการเยียวยาแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุด ว่า รัฐบาล ให้ความห่วงใยผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตร ประมง ค้าขายหาบเร่ กลุ่มรถรับจ้าง รับจ้างทั่วไป พนักงานเสิร์ฟ พนักงานหน้าร้านค้าร้านอาหาร นักร้องนักดนตรี ผู้ที่ทำงานภาคกลางคืน และฟรีแลนซ์ ได้สมัครมาตรา 40 เพื่อจะได้รับเงินเยียวยาในอัตรา 5,000 บาทต่อคน
ทั้งนี้ ผู้ประกันตน ม.40 ที่อยู่ในพื้นที่จะได้รับการโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน ในพื้นที่จังหวัดที่ประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติมอีก 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี ลพบุรี ระยอง สิงห์บุรี สระบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ และตาก รวมถึง 3 จังหวัดที่ประกาศล็อกดาวน์ไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง 19 จังหวัดนี้ สามารถไปสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 พร้อมส่งเงินสมทบเพื่อให้เป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 โดยสมบูรณ์ รับสิทธิประโยชน์และเงินเยียวยา ภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 นี้
นายสุชาติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยพี่น้องแรงงานอิสระในพื้นที่ที่ได้รับการเยียวยาตามที่ ครม.มีมติให้ขยายจังหวัดเพิ่มเติม ตนจึงได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนินการให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระ รีบมาสมัครให้ทันภายในวันที่ 24 สิงหาคม นี้ สามารถเลือกช่องทางการสมัครที่สะดวกและชำระเงินได้ทันที ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 เคาน์เตอร์บิ๊กซี หรือสมัครผ่านช่องทางอื่น เช่น สมัครออนไลน์ผ่าน www.sso.go.th สมัครผ่านตัวแทนเครือข่ายประกันสังคม หรือสมัครผ่านสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 แล้วรีบชำระเงินให้ทันภายใน 24 สิงหาคม ก็จะได้รับสิทธิเช่นกัน โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะโอนผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเท่านั้น
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ได้รับสิทธิเยียวยาซึ่งยังไม่เปิดบัญชีธนาคาร หรือมีบัญชีธนาคารแล้วแต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ให้รีบดำเนินการ หรือเปลี่ยนพร้อมเพย์จากเบอร์โทรศัพท์มือถือมาเป็นผูกกับเลขบัตรประชาชนให้เรียบร้อย ผู้ประกันตนมาตรา 40 ตามเงื่อนไขพื้นที่เยียวยาทั้ง 29 จังหวัด สามารถตรวจสอบสิทธิผ่าน www.sso.go.th ของสำนักงานประกันสังคมได้ทันทีสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี