ปฏิเสธทุกข้อหา-พร้อมสู้

ผกก.โจ้พลิกลิ้น

โอนคดีให้กองปราบฯดูแล

ฝากขังศาล-ค้านประกัน-นอนคุก

ผบ.ตร.ลั่นใครเอี่ยวเอาผิดทั้งหมด

ฟันวินัย/อาญา/ไม่มีการละเว้น

‘ปปช.’จ่อฟันปมร่ำรวยผิดปกติ

“บิ๊กใหม่” คุมสอบปากคำ “ผกก.โจ้” นานกว่า 5 ชั่วโมงเจ้าตัวอิดโรย สีหน้าเครียดจัด เผยอโหสิกรรมให้คนปล่อยคลิปฉาว พนง.สอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยื่นฝากขัง-ค้านประกัน“ผกก.โจ้กับลูกน้อง” ซึ่งศาลอนุญาตฝากขัง ผบ.ตร.สั่งโอนคดีให้ “กองปราบ” รับผิดชอบแทน ลั่นใครเอี่ยว ดำเนินคดีทั้งหมด ไม่มีละเว้น ฟันวินัย/อาญา พร้อมเช็คประวัติสีกากีทำงานด้านยาเสพติด ขณะที่ ป.ป.ช.รอเช็คบิลปมร่ำรวยผิดปกติ

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผกก.โจ้,พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง สว.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ , ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค รอง สว.ป.สภ.เมืองนครสวรรค์ ,ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณารอง สว.ป.สภ.เมืองนครสวรรค์, ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ผบ.หมู่ สภ.เมืองนครสวรรค์, ด.ต.ศุภกร นิ่มชื่นผบ.หมู่ สภ.เมืองนครสวรรค์ และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ผบ.หมู่ สภ.ตาคลี รวม 7 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายและข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง ภายหลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายใช้ถุงคลุมศีรษะนายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่าหลังจาก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ ถูกจับกุมตัวแล้วทำให้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจับกุมตัวไว้ได้แล้ว โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พร้อมคณะ ได้แถลงข่าวจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อช่วงดึกวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา

ต่อมาเวลา 01.20 น.พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษ (หน่วยหนุมาน) บก.ป.ได้คุมตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เดินทางไปยัง สภ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งทันทีที่เดินทางไปถึง บรรดาสื่อมวลชนที่เฝ้ารอติดตามทำข่าว ได้สอบถาม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ‘ผมมีเจตนาทำงาน ไม่ได้คิดจะทำร้ายใคร ที่พูดเป็นความจริง’ เมื่อถูกถามถึงกรณีคลิปวีดีโอที่ถูกปล่อยออกมา ทาง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กล่าวว่า ตนอโหสิกรรมให้ ไม่โกรธคนที่ปล่อยคลิป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ซึ่งมีสภาพร่างกายอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ไปยังห้องสอบสวน โดย พล.ต.อ.สุชาติ พล.ต.ต.ระพีพงศ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะมีการควบคุมตัวไปยัง บก.ภ.จว.นครสวรรค์ รวมถึง ร.ต.ท.ธรณินทร์ ด้วย เพื่อทำการสอบปากคำอย่างละเอียด ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ นานกว่า 5 ชั่วโมง โดยมีการจัดกำลังตำรวจ นปพ.สลับสับเปลี่ยนกันดูแลความเรียบร้อย

เวลา 06.50 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.นครสวรรค์ ได้เบิกตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ ไปชี้จุดเกิดเหตุที่บ้านกาแฟ ห้องปฏิบัติงานของชุดปราบปรามยาเสพติด (05) ของ สภ.เมืองนครสวรรค์ ด้านข้างของ สภ.ดังกล่าว ติดกับบ้านไม้ยกสูงเป็นอาคารชั้นเดียว ด้านหน้าอาคารไม้ ซึ่งระหว่างการคุมตัวไปชี้จุด ทางผู้สื่อข่าวที่มาเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว ได้พยายามสอบถาม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ว่ายังอยากจะพูดอะไรอีกหรือไม่ แต่ทั้ง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ ไม่ตอบคำถามใดๆ อย่างไรก็ดี การชี้จุดเกิดเหตุใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงเสร็จสิ้น ก่อนที่ทั้งสองจะถูกพาขึ้นรถตู้ตำรวจกลับไปยัง บก.ภ.จว.นครสวรรค์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองมีสภาพอิดโรย และสีหน้าเคร่งเครียด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากนั้นทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้คุมตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ 2 ผู้ต้องหาในคดีนี้ ไปขออำนาจศาลจังหวัดนครสวรรค์ ฝากขัง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ฝากขังผู้ต้องหา 5 ราย ที่จับกุมตัวไว้ได้แล้ว โดย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ปิดปากเงียบไม่หันมาตอบคำถามสื่อมวลชน แม้ว่าจะถูกพยายามซักถาม ก่อนจะเดินก้มหน้าแล้วขึ้นรถเดินทางไปยังศาล

ที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และร.ต.ท.ธรณินทร์ ผู้ต้องหาในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด , ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดฯ และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์มีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดเสียเอง หากปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งศาลพิจารณาและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้จากนั้นศาลได้นำตัวไปฝากขังเรือนคำ

ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนทางเอกสารเพื่อโอนสำนวนคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กับพวก มาให้ทาง บก.ป.เป็นผู้รับผิดชอบเนื่องจากที่ผ่านมา บก.ป.ได้ร่วมปฏิบัติการกับทาง บช.ภ.6 และ บก.ภ.จว.นครสวรรค์ มีความเข้าใจและความคล่องตัวในการขยายผลไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยยืนยันว่าหากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงผู้ใด ก็จะดำเนินคดีทั้งหมดไม่มีการละเว้น

ผบ.ตร.กล่าวถึงเรื่องคำให้การของผู้ต้องหาในคดีนี้ว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดจะให้การอย่างไรถือเป็นสิทธิ แต่พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบรัดกุม รวมทั้งประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมด หลังจากสังคมเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความร่ำรวยผิดปกติของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.ในฐานะกำกับดูแลงานด้านยาเสพติด ไปตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่เกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศ หากพบว่ามีบุคคลใดที่มีประวัติหรือพฤติกรรมไม่ดี เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเคยถูกร้องเรียนจะต้องมีบทลงโทษ ทั้งผู้ปฏิบัติและผู้บังคับบัญชา

ขณะที่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมป.ป.ช.รับทราบรายงานการตรวจสอบกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กับพวก ก่อเหตุทำร้ายผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะต้องส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน ส่วนกรณีทรัพย์สินของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ สามารถตรวจสอบกรณีร่ำรวยผิดปกติได้ ซึ่งได้มอบหมายสำนักตรวจทรัพย์สิน ป.ป.ช.ไปดำเนินการประมวลข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยจะดำเนินการตามที่มีกรอบเวลากำหนดไว้

อีกด้านหนึ่ง นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยืนยันว่ารัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปองค์กรตำรวจ ยึดสาระสำคัญตามรัฐธรรมนูญ 2560 หมวดปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ… อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการร่วมของรัฐสภาแล้ว ยืนยันว่าทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ และหากเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายกระทำผิดเอง ต้องรับโทษขั้นสูงสุด กรณีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และคดีอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน นายกฯ ย้ำว่ากระบวนการยุติธรรมที่เข้มแข็งคือเสาหลักการบริหารประเทศ

ที่ รัฐสภา ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีพ.ต.อ.ธิติสรรค์ ว่าสังคมยังเคลือบแคลงสงสัย ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เกรงว่าจะมีการช่วยเหลือกันเพราะผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ ขออย่าปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ การเปิดโปงขบวนการทั้งหมดแสดงถึงอิทธิพลของการใช้โซเชียลมีเดีย คลิปวีดีโอที่เปิดเผยออกมาหากไม่ใช่คนวงในคงไม่มีข้อมูล สะท้อนถึงความไม่เห็นด้วยของทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระบวนการสอบสวนที่ผ่านมามีการใช้ถุงดำคลุมศีรษะหรือไม่ และทางผู้กระทำชี้แจงว่าไม่มีเจตนาฆ่า ศ.พิเศษ วิชา กล่าวว่า อยากให้ย้อนไปดูคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 5332/2560 ซึ่งพิพากษาไว้ในหลักการและลักษณะที่ชัดเจน โดยวินิจฉัยว่าการนำถุงคลุมศีรษะย่อมแสดงให้เห็นชัดเจนว่าผู้กระทำย่อมเล็งเห็นว่าผู้ถูกกระทำย่อมขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้จึงวางหลักในคดีไว้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าซึ่งกรณีนี้มีความชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ก็คงต้องติดตามการทำงานของคณะกรรมการในการสืบสวนสอบสวน ส่วนตัวมองว่าผิดปกติเพราะการสอบสวนต้องดำเนินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ต้องอาศัยกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ และกระบวนการอื่นๆ ร่วมกันเพื่อค้นหาความจริงว่ามีใครร่วมมือหรืออยู่เบื้องหลังและมีการทำแบบนี้ก่อนหน้านี้หรือไม่

ศ.พิเศษ วิชา กล่าวอีกว่า เห็นด้วยที่การปฏิรูปตำรวจจำเป็นต้องปฏิรูปกระบวนการในการสอบสวนควบคู่ไปด้วย ซึ่งร่าง พ.ร.บ.สอบสวนคดีอาญา ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์เป็นประธานฯ ได้ส่งเรื่องมาแล้วขณะนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งก็พยายามเร่งเพื่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ โดยเร็ว