ชาวบ้านในอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 10 รายขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดี 2 สาวสุดแสบทำตัวเป็นนายหน้าหลอกกู้เงินรายวัน พอหลงเชื่อได้เงินกู้แล้วชำระครบทั้งต้นและดอก กลับเอาบัตร ปชช.ชาวบ้านไปสวมรอยกู้นอกระบบซ้ำก่อนนำเงินไปใช้เองแล้วชิ่งหนี ทำชาวบ้านเป็นหนี้บานรายละหลายหมื่น แถมถูกตามทวงหนี้ด้วย
วันที่ 4 ก.ย.64 ชาวบ้านบ้านดอนมัน ตำบลตาจง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 10 รายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ละหานทรายเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัว 2 สาวสุดแสบ คือ น.ส.เสาวลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี และ น.ส.วาสนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกันมาดำเนินคดีและรับผิดชอบชำระหนี้คืนนายทุน หลังจากแอบเอาบัตรประจำตัวประชาชนของชาวบ้านไปสวมรอยกู้เงินรายวันแล้วไม่ยอมจ่ายคืน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ต้องถูกนายทุนและแก๊งเงินกู้ติดตามทวงหนี้ รายละหลายหมื่นบาท
น.ส.เย็นฤดี ลอกประโคน อายุ 33 ปีตัวแทนชาวบ้านที่เข้าแจ้งความ เล่าให้ฟังว่า ตนเองและชาวบ้าน ถูก น.ส.เสาวลักษณ์ และ น.ส.วาสนา ซึ่งทำตัวเป็นนายหน้ามาหลอกล่อชักชวน ว่า ใครสนใจจะกู้เงินรายวัน ดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน ซึ่งก็มีชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าหลายคนสนใจ เพราะต่างก็เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิดระบาด จึงต้องการเงินไปหมุนใช้จ่ายในครอบครัว โดยบุคคลทั้ง 2 ก็อาสาเป็นนายหน้านำตัวประชาชนของชาวบ้านที่สนใจจะกู้ ไปทำเรื่องกู้กับนายทุน ซึ่งครั้งแรกชาวบ้านก็ได้เงินมาจริง ซึ่งทุกคนก็ชำระหนี้ตามกำหนดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
แต่จู่ๆ ก็มีแก๊งเงินกู้รายวันมาติดตามทวงถามว่าพวกตนค้างชำระก็ตกใจมากจึงไปสอบถามกับนายทุนที่ปล่อยกู้ จึงทราบว่า น.ส.เสาวลักษณ์ และ น.ส.วาสนา ได้นำบัตรประชาชนของชาวบ้านมาสวมรอยกู้เงิน โดยหลอกนายทุนว่าชาวบ้านสนใจกู้เพิ่ม แต่จริงๆ แล้วทั้งสองเอาเงินไปใช้จ่ายแล้วไม่ยอมชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รายละหลายหมื่นบาท ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าบุคคลทั้ง 2 ไปอยู่ที่ไหนเพราะติดต่อไม่ได้
น.ส.เย็นฤดี ยังบอกอีกว่า เฉพาะของตนเอง ถูกนำบัตรประชาชนไปสวมรอยกู้เงิน 53,000 บาท ตนต้องหาเงินจ่ายดอกเบี้ยแทน วันละ 4,300 บาท ทั้งที่ตัวเองไม่ได้กู้ ก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาจ่าย ซึ่งเบื้องต้นก็ได้พากันไปพูดคุยกับเจ้าหนี้แล้วว่า พวกตนไม่ได้เป็นคนกู้ แต่ถูกนำบัตรประชาชนไปสวมรอยกู้ซึ่งทางเจ้าหนี้ก็บอกว่าเห็นใจ แต่หากติดตามตัวบุคคลทั้ง 2 มาชำระหนี้คืนไม่ได้ พวกตนก็ต้องรับผิดชอบแทนเพราะชื่อคนกู้เป็นชื่อชาวบ้าน
จึงอยากฝากถึงบุคคลทั้ง 2 ให้สงสารชาวบ้านแล้วกลับมารับผิดชอบจ่ายหนี้คืนด้วย เพราะตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก ซึ่งหลังแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จะติดต่อประสานกับบุคคลทั้งสองที่ถูกแจ้งความมาพูดคุยไกล่เกลี่ย แต่หากไม่มาก็จะต้องออกหมายเรียก และหมายจับตามขั้นตอนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี