ฟันไม่เลี้ยง!ให้ออกจากราชการ‘ดาบชัย’หน.แก๊งอุ้ม แจ้งข้อหาหนัก
5 กันยายน 2564 ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอุ้ม 2 สาวไปขังกรงปล่อยพิบูลเฝ้าเพื่อข่มขู่รีดเงิน ก่อนปล่อยตัวออกมา ทำให้ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย และไล่ล่ากดดันจนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รวบแล้ว'ดาบชัย'หน.แก๊งอุ้มตัวแสบ ใครเคยเป็นเหยื่อรีบแจ้งความ)
ล่าสุดนายเยล (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ได้เดินทางมาดูรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียนระยอง ซึ่งตนเองเป็นเจ้าของรถ โดยเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน ถูกแก๊งนี้ก่อเหตุในลักษณะคล้ายๆกัน คือนำกำลังมาควบคุมตัว ใช้เสื้อและถุงดำคลุมซ้ำ แล้วพาตัวไปกักขังอยู่ในกรงที่มีสุนัขพิทบูลเฝ้าอยู่ ซึ่งเป็นที่เดียวกันกับที่ 2 สาวถูกนำตัวไปขังไว้ จากนั้นให้ชี้ยาเสพติด แล้วบันทึกวีดีโอ โดยบังคับให้ยอมรับสารภาพ ทั้งที่ยาเสพติดนั้นไม่ใช่ของตน ซึ่งยอมรับว่าเมื่อก่อนเคยเสพจริง แต่เลิกหมดแล้ว ภายหลังกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ส่งตัวแทนมาเจรจาให้เคลียร์เงิน เพื่อจบคดีที่ 2 แสนบาท ซึ่งตนจ่ายเงินไป 20,000 บาท พร้อมเซ็นเอกสารจำนำรถยนต์คันดังกล่าว
นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยถึงพฤติกรรมของหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีพฤติกรรมพูดจามิดีมิร้ายกับแฟนสาวของตน สร้างความโกรธแค้นให้กับตนเป็นอย่างมาก ถึงกับประกาศขอเจอตัวอีกครั้ง เพราะทนรับกับพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายนี้ไม่ไหว ส่วนตอนนี้ก็คิดว่าเป็นโชคดีที่จะได้รถยนต์คืน
ด้านความคืบหน้าของคดีหลังจับกุม “ดาบชัย” หัวหน้าขบวนการได้ที่ลานจอดคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งได้ ต่อมาเมื่อคืนวันที่ 4 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 2 จังหวัดชลบุรี ได้ทำการตรวจค้นรถยนต์จำนวน 2 คันที่ตรวจยึดมาจากคอนโดฯที่พักอาศัยของ “ดาบชัย” คันแรกเป็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนสระบุรี คาดว่าเป็นรถยนต์ส่วนตัวของ “ดาบชัย” ภายในพบอาวุธปืน ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนจำนวนหลายกล่อง เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และตู้เซฟ 1 ใบ ตรวจสอบภายในพบเพียงซองกันชื้น และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ
ส่วนรถอีกคัน เป็นรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียนระยอง ซึ่งเป็นรถของเหยื่ออีกรายที่ถูกขบวนการนี้บังคับให้จำนำแล้วยึดรถไว้เมื่อประมาน 1 เดือนที่ผ่านมา ภายในตรวจพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติกอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้ตรวจสอบ
ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เดินทางมาตรวจสอบคดี พร้อมเปิดเผยว่า สำหรับคนร้ายขบวนการนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือเจ้าพนักงาน (เจ้าหน้าที่ตำรวจ) ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ เป็นผู้สั่งการ และส่วนที่ 2 คือ กลุ่มประชาชนหรือชาวบ้านที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ แล้วก่อเหตุทำให้ผู้อื่นขาดอิสรภาพ และกักขังไว้เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นเงินสด เงินโอน หรือรถยนต์ ที่บังคับเอามาในทางที่ผิด ซึ่งส่วนของชาวบ้านก่อเหตุจะมีอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มละประมาน 5 คน ก่อเหตุโดยการรับคำสั่งจาก “ดาบชัย” เป็นผู้บงการ หรือหากพบเหยื่อ หรือสบโอกาสที่ลงมือได้ ก็จะทำการก่อเหตุทันที
สำหรับผู้เสียหายในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา ภายหลังเหยื่อถูกปล่อยตัวได้มาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที จึงสามารถเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ และร่องรอยการก่อเหตุ ทำให้สืบสวนติดตามจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายได้รวดเร็ว ส่วนความผิดในพื้นที่ สภ.หนองปรือ เป็นคนร้ายอีกกลุ่มมีผู้บงการคนเดียวกัน คือ “ดาบชัย” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบหลักฐานทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายก่อเหตุไป และยึดไว้เป็นประโยชน์ส่วนบุคคล โดยในวันนี้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ยังพบทรัพย์สินของผู้เสียหายหลายรายการที่ถูกก่อเหตุมาจากพื้นที่อื่น อีกทั้งยาเสพติดที่ตรวจค้นพบจะต้องทำการตรวจสอบเช่นเดียวกัน รวมถึงตรวจสอบความผิดที่ผู้ต้องหาขบวนการนี้ก่อเหตุไว้ในพื้นที่อื่นอีกด้วย
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาแล้วทั้งสิ้น 10 ราย แบ่งเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้บงการ 1 ราย คือ ดาบชัย กลุ่มผู้ก่อเหตุพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา 5 ราย และกลุ่มผู้ก่อเหตุ สภ.หนองปรือ 4 ราย เหลือเพียงผู้ต้องหาอีก 1 ราย ในพื้นที่ สภ.หนองปรือ ยังหลบหนีอยู่ คาดว่าจะจับกุมตัวได้โดยเร็ว จากการตรวจสอบ ประวัติผู้ต้องหาพบว่าบางรายมีประวัติถูกต้องโทษ บางรายอยู่ในช่วงการประกันตัว หรือบางรายเป็นการกระทำความผิดซ้ำ
สำหรับตัว “ดาบชัย” ยังคงปิดปากเงียบ ไม่ให้การใดๆแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จากพยานหลักฐานต่างๆ ที่ได้รวบรวมมา มั่นใจว่าสามารถส่งฟ้องดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน เบื้องต้นมีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้ว พร้อมแจ้งหลายข้อหาหนัก อาทิ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ , ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ , เอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม , ซ่องโจร ซึ่งความผิดที่กระทำนั้นมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต ส่วนผู้ร่วมขบวนการรายอื่นจะแจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิดที่ก่อเหตุไว้ในสถานีตำรวจแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี่อีกหลายราย อยากฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน ชาวบ้าน ผู้เสียหายที่ถูกบุคคลกลุ่มนี้ก่อเหตุลักษณะเดียวกัน ให้ออกมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด และดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี