“ผบช.สตม.” นำแถลง “ตม.ตาก” คุมเข้มชายแดน จับกุมคนเมียนมาพาเพื่อนร่วมชาติ 44 คน เดินลัดเลาะเขาหลบหนีเข้าพื้นที่ชั้นใน ปลายทางที่ “บางแค”
8 กันยายน 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม 5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 , พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.ตม.จว.ตาก และ พ.ต.ท.สุชาติ เพ็ญภู่ รอง ผกก.ตม.จว.ตาก ร่วมแถลงข่าวจับกุมขบวนการลักลอบนำต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ตม.จว.ตาก ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายพาเข้าไปทำงานยังพื้นที่ชั้นในโดยวิธีลัดเลาะขึ้นป่าเขา จึงได้ประสานกำลังจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ช่วยกันสกัดกั้น จนกระทั่งคืนวันเกิดเหตุสามารถจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ขณะกำลังเดินลัดเลาะแนวเขาบ้านห้วยไม้ฮ่าง หมู่ 6 ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก
จากการตรวจสอบพบนายเปาเป็ง ไม่มีนามสกุล อายุ 42 ปี สัญชาติเมียนมา ยอมรับว่าตนเป็นชาวเมียนมา เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรได้ประมาณ 5 ปี ต่อมาตนและเพื่อนอีก 3 คน ได้ตกลงนัดหมายกันที่จะลักลอบพาชาวเมียนมา จำนวน 44 คน เดินทางข้ามมายังฝั่งไทย โดยใช้วิธีเดินเท้าลัดเลาะเขาเพื่อพาไปส่งยังจุดนัดพบที่ อ.บ้านตาก จ.ตาก จะมีกลุ่มขบวนการอีกกลุ่มรอรับอยู่ โดยตนพร้อมพวกเป็นคนนำทางจริง ได้ค่าจ้างหัวละ 200 บาท
ส่วนนายส่อเลหน่าย พร้อมพวกคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองอีก 44 คน รับว่าได้ลักลอบเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย โดยได้จ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าไปแล้วคนละ ประมาณ 7,500 - 20,000 บาท เพื่อเข้าไปทำงานที่เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยเดินทางข้ามฝั่งทางเรือมายังฝั่งไทยในเวลากลางคืน แล้วก็มีนายเปาเป็ง กับพวก เป็นคนนำทางพาเดินลัดเลาะป่าเขาจนกระทั่งถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวผู้ต้องหานำส่ง สภ.พะวอ เพื่อดำเนินคดีต่อไป โดยดำเนินคดีนายเปาเป็ง ในความผิดฐาน “ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ส่วนนายส่อเลหน่าย และชาวเมียนมา ที่เหลือแยกเป็นชาย 22 คน และหญิง 22 คน ดำเนินคดีฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี