นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เข้าร่วมการประชุมนวัตกรรมวิทยาศาสตร์สุขภาพภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC LIFE SCIENCES INNOVATION FORUM : LSIF) ประเด็นการป้องกันมะเร็ง ในหัวข้อ“การพัฒนาการป้องกันมะเร็งอย่างยั่งยืน”(Sustaining and Improving Cancer Prevention Efforts) จัดโดยกระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน (Ministry of Health and Welfare, Chinese Taipei) ซึ่งมี
ผู้เข้าร่วมประชุมจาก 8 ประเทศผ่านระบบออนไลน์
การประชุมครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นโยบายการป้องกันมะเร็งของประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุดในการควบคุมปัจจัยเสี่ยง เพื่อป้องกัน หรือลดอุบัติการณ์ของมะเร็ง โดย นายสุปรีดา นำเสนอตัวอย่างการทำงานป้องกันโรคมะเร็งของไทยในระดับต้นน้ำ ว่า จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก (WHO) มะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ของโลก มีผู้เสียชีวิตราว 9.6 ล้านคนในปี 2561 ในกลุ่มเศรษฐกิจเอเปก มะเร็งเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของสาเหตุการตาย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของไทยในทุกเพศ
“สำหรับโรคกลุ่มนี้ การป้องกันการเกิดโรคคุ้มค่ากว่าการรักษามาก ส่วนการป้องกันที่อาจแยกเป็นการป้องกันรายบุคคล เช่น การตรวจคัดกรอง การให้บริการสุขศึกษา และการป้องกันระดับปฐมภูมิในประชากร ที่ใกล้เคียงกับการสร้างเสริมสุขภาพ จะประกอบด้วยการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพและวิถีชีวิต ตลอดจนสังคมสิ่งแวดล้อมให้ปลอดต่อปัจจัยเสี่ยงการเกิดมะเร็ง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงตัวสำคัญ ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การกินผักและผลไม้น้อย การขาดการออกกำลังกาย และน้ำหนักตัวเกิน การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ เป็นต้น” นายสุปรีดา ระบุ
นายสุปรีดา กล่าวต่อว่า ในประเทศไทยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีบทบาทหลักในการให้บริการป้องกันโรครายบุคคลและรายกลุ่มในระบบบริการสุขภาพ ในขณะที่ สสส. มุ่งให้ความสำคัญกับการลดปัจจัยเสี่ยงในระดับประชากรเป็นหลัก โดยการสนับสนุนและเชื่อมประสานสามพลัง อันประกอบด้วย พลังวิชาการ พลังนโยบาย และพลังสังคม ของทุกภาคส่วน ทั้งในหน่วยงานด้านสุขภาพและนอกวงการสุขภาพไม่ว่าภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน
ในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายและกระแสสังคมที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมสุขภาพ และสังคมสิ่งแวดล้อมที่ลดความเสี่ยงต่างๆ ข้างต้น ซึ่งจะเอื้อต่อการป้องกันการเกิดมะเร็ง สำหรับตัวอย่างการทำงานขับเคลื่อนไตรพลังของ สสส. นำไปสู่นโยบายและมาตรการสำคัญ ได้แก่ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ฯ รวมทั้งกระแสสังคมที่สนับสนุนการขยายเขตปลอดบุหรี่ และการจัดเทศกาลและงานสังคมต่างๆ ที่ปลอดเหล้า
“มาตรการเหล่านี้ร่วมกันส่งผลให้คนไทยดื่มเหล้า สูบบุหรี่ลดลง ทำนองเดียวกับการประสานและผลักดันมาตรการที่ลดปัจจัยเสี่ยงตัวอื่นๆ” นายสุปรีดา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี