'เพชรบูรณ์' น้ำท่วมเข้าสู่วันที่ 3 ชุมชนบ้านดอนสว่างเป็นอีกหนึ่งชุมชนริมน้ำป่าสัก ที่ได้รับความเดือดร้อน ถูกมวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมทั้งหมู่บ้าน ประชากรกว่า 136 ครัวเรือน ขาดแคลนอาหาร และน้ำดื่ม

12 ก.ย.4 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์มวลน้ำมหาศาล ในแม่น้ำป่าสัก ที่เอ่อล้น ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตร รวมทั้งย่านเศรษฐกิจ ในหลายพื้นที่ของอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว โดยเช้าวันนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำ ทั้งในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก และ เขตเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว ซึ่งเป็นเขตติดต่อกัน  พบว่าระดับน้ำ "บางจุด" เริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ภาพรวมยังคงทรงตัว เนื่องจากลำน้ำป่าสัก ยังมีมวลน้ำหนุนลงมาต่อเนื่อง หากพื้นที่ต้นน้ำโซนบนจังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่มีฝนตกซ้ำลงมาอีก แนวโน้มคาดว่าจะยุบลงเรื่อยๆ

โดยในเช้าวันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ ก็ต่างออกมาเดินทางไปทำงาน และดำเนินชีวิตประจำวัน บ้านเรือน และร้านค้าบางส่วน ในจุดที่น้ำลด ก็เริ่มมีการเก็บของ ทำความสะอาด ส่วนถนนภายในชุมชน รถเล็ก สามารถขับผ่านได้แล้ว แต่บางจุดน้ำลึก ยังคงมีป้ายติดห้ามขับผ่าน เพราะเกรงว่า จะเกิดคลื่นน้ำ ซัดเข้าใส่ตัวบ้านเรือนประชาชน จนเดือดร้อนซ้ำไปอีก  ขณะเดียวกัน สภาพอากาศในพื้นที่ ยังคงมีเมฆฝนปกคลุม ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับที่ ชุมชนบ้านดอนสว่าง หมู่ 9 ตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ก็เป็นอีกชุมชนหนึ่ง ที่กำลังได้รับความเดือดร้อน จากเหตุการณ์มวลน้ำป่าสักเอ่อล้นตลิ่ง ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ที่อาศัยอยู่สองแนวฝั่งแม่น้ำ ต้องถูกน้ำท่วมทันทีทั้งหมู่บ้าน ประชากร ราว 592 คน ประมาณ 136 ครัวเรือน ต่างได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง  ส่วนใหญ่เริ่มขาดแคลนอาหาร และน้ำดื่ม เนื่องจากท่อลำเลียงน้ำประปา ถูกกระแสน้ำกัดเซาะแตกเสียหาย ไม่มีน้ำกิน น้ำใช้ หลังจากน้ำท่วมมาแล้ว ถึง 3 วัน ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย มูลนิธิร่วมกตัญญู และ อบต.สักหลง ก็ต่างระดมยานพาหนะ รถยกสูง และเรือท้องแบน ลำเลียงน้ำดื่ม ข้าวกล่อง ถุงยังชีพ ออกแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยบางจุดพบว่าประชาชนไม่สามารถออกมาจากบ้านได้  เนื่องจากเป็นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือท้องแบนเข้าไปให้การช่วยเหลือ แต่ก็ยังพบว่าไม่เพียงพอ ต่อความต้องการ

จากการสอบถาม นายนเรศ ขันตรี อายุ 37 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 เล่าว่า ชุมชนดอนสว่าง มีประชากร ประมาณ 592 คน ประมาณ 136 ครัวเรือน โดยเหตุการณ์อุทกภัยรอบนี้ ถือเป็นรอบที่นานที่สุดและรอบสูงที่สุด นับตั้งแต่เกิดมาเลยก็ว่าได้ หรือ ตั้งแต่ 30 กว่าปีนี้ ถือว่าหนักที่สุด และสูงที่สุด คือชาวบ้านได้รับความเสียหายทุกหลังคาเรือน หนักบ้าง เบาบ้าง ตามลักษณะพื้นที่สูงต่ำของแต่ละบ้าน ส่งผลให้ชาวบ้านล้วนขาดแคลนเครื่องอุปโภค บริโภค อีกทั้งการประปา ก็ถูกตัดขาด หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะท่อลำเลียงน้ำประปาแตก ไม่มีน้ำกิน น้ำใช้ ซึ่งตอนนี้ การประปาได้สนับสนุนน้ำดื่มมา 500 ขวด และก็มีสมาคมกกไทร และร่วมกตัญญู รวมไปถึง อบต.สักหลง ที่เข้ามาช่วยเหลือ โดยตอนนี้ อยากจะได้อาหารและเครื่องดื่ม เพราะตอนนี้ยังขาดแคลนอยู่. -008