เตือน42จว.เสี่ยงท่วม
ระทึก!เขื่อนเจ้าพระยา
ยังปล่อยน้ำเพิ่มต่อเนื่อง
นายกฯลงตรวจรับน้ำท่วม
กรมอุตุฯ เตือน 42 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก ไทยยังมีฝนตกเพิ่มขึ้น เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเพิ่ม เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนรับมือน้ำเพิ่มสูงนายกฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์-วางแผนป้องกัน ระดับน้ำอ.เสนา จ.อยุธยา เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เฝ้าระวัง24ชั่วโมง โคราชผวาอ่างลำเชียงไกรแตก เร่งเสริมแนวคัน ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ฝนถล่มวังสะพุง จ.เลย จมบาดาล
เมื่อวันที่ 15กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก
สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ2เมตรส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยคลื่นสูง1-2 เมตรและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3เมตรขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งอีก1วัน
ส่วนพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่ กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ จ.นครสวรรค์ 1,864 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) /วินาทีและเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเป็น 1,423ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท น้ำสูงขึ้น 35 เซนติเมตร ทางจังหวัดได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางตรวจราชการที่เขื่อนเจ้าพระยา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา เพื่อเตรียมรับน้ำเหนือหลาก และวางแผนป้องกันพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านทางภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคอีสานตอนบน ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 15 – 16 กันยายน 2564 ประเทศไทยยังคงมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำท่าตามแหล่งน้ำธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากการปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา สถานีวัดน้ำท่าC.67 แม่น้ำเจ้าพระยา อ.เสนา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.44 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กรมชลประทาน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าดำเนินการตามแผนป้องกันเหตุ และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาแล้ว
ด้านระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เชื่อมต่อ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ยังคงน่าเป็นห่วง หลังจากมีมวลน้ำจำนวนมากจากด้านบนไหลลงอ่างอย่างต่อเนื่องจนปริมาณน้ำทะลักล้นเกินความจุ โดยมีน้ำอยู่กว่า 34 ล้าน ลบ.ม.หรือ 122%ของความจุ 27 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งน้ำไหลเข้าอ่าง 2.7 ล้าน ลบ.ม.แต่ระบายออกได้ 1.5 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนบริเวณสันอ่างเก็บน้ำ ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย สำนักงานชลประทาน จ.นครราชสีมา อยู่ระหว่างก่อสร้างปรับปรุงประตูระบายน้ำใหม่จากเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งต้องปรับการระบายน้ำโดยขุดคลองฝั่งขวาเปิดทางน้ำลงพื้นที่ด้านล่าง และใช้ระบบกาลักน้ำ จึงระบายน้ำได้ไม่เต็มที่พร้อมกับเร่งเสริมแนวคันดินและถุงบรรจุทรายขนาดใหญ่เสริมความแข็งแรงบริเวณคลองระบายน้ำด้านล่าง ในขณะที่ยังมีมวลน้ำไหลมาเติมลงอ่างอยู่ตลอดเวลา อัตราน้ำไหลเข้ามากกว่าน้ำที่ระบายออก จึงมีมวลน้ำสะสมจำนวนมาก จนระดับน้ำเกินความจุ ชาวบ้านต่างหวาดผวาว่าอ่างเก็บน้ำจะทานกระแสน้ำไม่ไหว จนเกิดชำรุดพังเสียหายได้
นายมนัส ศรีสันเทียะ อายุ 62 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำดังกล่าว เผยว่า ปีนี้ปริมาณน้ำในอ่างลำเชียงไกร (ตอนล่าง) มากกว่าทุกๆ ปี และระบายน้ำได้ค่อนข้างน้อย เพราะกำลังมีการซ่อมแซมประตูระบายน้ำ ขณะที่ระดับน้ำอยู่ปริ่มๆ แนวคันดินกั้นน้ำเกรงว่าหากยังมีมวลน้ำไหลลงอ่างอยู่อีก อาจจะต้านทานไม่ไหว เกรงว่าจะเกิดรอยรั่ว แตกร้าว จนน้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน จึงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะยังมีฝนตกลงมาอีก
สำหรับบริเวณฝายน้ำล้นบ้านส้ม ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง พบว่าปริมาณน้ำไหลล้นฝายเก็บน้ำแล้ว มีกระแสน้ำไหลแรง ทางสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณสะพานบ้านส้ม6 เครื่อง เพื่อเร่งผลักดันน้ำที่ไหลจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ไปยังปลายทางในพื้นที่ อ.พิมาย
อีกด้านหนึ่ง ที่ จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา มีฝนตกหนักในพื้นที่อ.วังสะพุง จนปริมาน้ำในหลายพื้นที่รอบตัวอำเภอ เช่น น้ำจากสาขาห้วยอีเลิศ ไหลเอ่อเข้าท่วมถนนภูมิวิธี ถนนกลางเมือง และพื้นที่ลุ่มต่ำเทศบาลเมืองวังสะพุง บ้านเรือนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 หลังคาเรือน ตั้งแต่ช่วงหน้าศาลเจ้าวังสะพุง ไปจนถึงแยกตัดถนนมะลิวัลย์เลย-วังสะพุง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ระดับน้ำสูง 30-50 เซนติเมตร บางช่วงรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และยังคงมีฝนตกอยู่ ซึ่ง เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก่อนจะเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี