17 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ. 3 พร้อมด้วย นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พ.อ. ณัฐพงศ์ จินดาเวช รอง ผอ.รมน.จ.ศรีสะเกษ (ท) พล.ต.ต. สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ นายเริงศักดิ์ เกตุจันทึก ผบ.เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ นายปรีชา ส่งเสริม หน.ศอ.ปส. จ.ศรีสะเกษ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ตาม “ยุทธการพิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” ของตำรวจภูธรภาค 3 และ “ยุทธการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” ของ จ.ศรีสะเกษ
ครั้งนี้เป็นการสนธิกำลังร่วมกันระหว่างตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ศูนย์ปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ผลการปฏิบัติ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 64 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการตามแผน “ยุทธการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” ประกอบด้วย ตำรวจ, ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ จับกุม นายสันติภาพหรือขิง สิงหนุต อายุ 36 ปี ได้ของกลาง ยาบ้า 200,000 เม็ด จับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบริษัท ฟ้าลิขิต ถนนศรีสะเกษ-อุบล ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตามจับกุมนายสิงหนาท สิงหนุต อายุ 37 ปี ที่อยู่ 164 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พี่ชายของนายสันติภาพ ซึ่งทำหน้าที่ขับรถดูต้นทาง เพื่อความสะดวกในการลักลอบลำเลียงยาบ้า เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคน ว่า “ร่วมกันมียาบ้า ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ” ยึดรถเก๋ง 2 คัน
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 3 เรามีมิติในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอยู่ 4 มิติ โดยมิติแรกก็คือ เราต้องมีการซิลตามพื้นที่แนวชายแดน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน คือหน้าที่ของทหารในการสกัดกั้นยาเสพติด เมื่อซิลพื้นที่แนวชายแดนแล้วยังมียาเสพติดลักลอบเข้ามาอีก ก็มีมิติที่สอง คือ มาตรการในการปราบปราม อย่างที่เห็นผลงานอยู่นี้ เป็นผลงานการการปฏิบัติของตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ร่วมกับฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่เรือนจำซึ่งจะมีข้อมูลของผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่เคยถูกต้องโทษ เมื่อจับกุมผู้เสพ ผู้ค้ารายเล็กรายย่อย แล้วทำการขยายผลไปหารายใหญ่ มาตรการที่สามคือมาตรการการบังคับใช้กฎหมาย ยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ครั้งนี้ จับกุม ผู้ต้องหา 2 คน ยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ได้กว่า 1 ล้านบาท มิติสุดท้าย เมื่อยาเสพติดลงไปสู่ชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ใช้โครงการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนแบบยั่งยืนอย่างที่จังหวัดศรีสะเกษทำอยู่ ทำอย่างยั่งยืนคือเมื่อมีผู้เสพสมัครใจเข้ามาบำบัดไม่ได้หยุดแค่นั้น แต่ต้องฝึกอาชีพให้เขา หางานทำให้ ให้มีงานทำ มีรายได้ ให้เขาหยุดยาเสพติดอย่างเด็ดขาด
“ต้องขอเรียนมาว่า การที่เราจับได้นั้น เป็นเพราะเรามีการสร้างระบบ “พาร์มแท็งค์” เป็นบิ๊กดาต้า เราเอาเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ โปรแกรมจะช่วยวิเคราะห์ให้เจ้าหน้าที่ ทำให้ระยะหลังมานี้เจ้าหน้าที่มีการจับยาเสพติดได้เยอะของกลางจำนวนมาก นอกจากนั้น การแก้ไขปัญหายาเสพติด จะสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนไม่มีทางสำเร็จ ฉะนั้น จึงขอฝากพี่น้องประชาชน ถ้ามีข้อมูลข่าวสาร หรือมีเบาะแส ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทางฝ่ายปกครอง เชื่อว่าจะทำให้ยาเสพติดหมดไปจากหมู่บ้าน ชุมชนและประเทศชาติของเราอย่างแน่นอน” พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าว.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี