นายกฯยันจัดหาวัคซีนเพิ่ม
ยังไม่พอใจยอดตาย
หนุนแซนด์บ็อกซ์รง.ฟื้นศก.
อ้อนคนชลฯช่วยรักษาหัวใจ
ศบค.เบรกกทม.แซนด์บ็อกซ์
ห่วงคลัสเตอร์งานสังสรรค์
วอนราชการงดเลี้ยงเกษียณ
ไทยติดเชื้อ 14,555 ราย หายป่วย 13,691 คน ดับ 171 ศพ ใช้ท่อหายใจลดลงทั่วประเทศ ฉีดวัคซีนเกิน 50% ของประชากรแล้วแค่ 8 จังหวัด ห่วงติดเชื้อ ในวงเหล้า-สังสรรค์ในที่ราชการ-คลัสเตอร์รร.นายสิบ–แคมป์ก่อสร้าง–ตลาด หลายจว.โผล่ต่อเนื่อง นายกฯ-ศบค.ชุดเล็ก กวดขันคุมเข้า รร.ประจำ รร.ทหาร แนะรัฐงดจัดเลี้ยงเกษียณเพื่อเป็นตัวอย่าง สธ.ไฟเขียวฉีดวัคซีนเข้าผิวหนังที่ภูเก็ตก่อน เผยเริ่มฉีดกระตุ้นเข็มสาม 24 กันยายน ศปก.ศบค. ยังไม่มีมติให้เปิด กทม.แซนด์บ็อกซ์
รอชุดใหญ่เคาะ นายกฯลงตรวจ โครงการFactory Sandboxที่ชลบุรี หนุนขยายโครงการฯมากขึ้น ดันฟื้นเศรษฐกิจปท.ลั่นจะทำให้บ้านเมืองสงบได้มากที่สุด อ้อนคนเมืองชลฯช่วยรักษาหัวใจนายกฯให้แข็งแรง ‘ผู้ว่าฯอัศวิน’ปัดฟันธงเปิด กทม.แซนด์บ็อกซ์ 15ต.ค.รอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เร่งฉีดวัคซีนให้คนกรุงครบ 2 โดสให้เกิด70%
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทย์หญิง อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ในไทย ที่ผู้ติดเชื้อทรงตัวที่หลักหมื่น เสียชีวิตยังอยู่ที่หลักร้อยราย
ติดเชื้อ14,555/หายป่วย13,691คน
โดยไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 14,555 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,756 คน มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 12,600 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,156 ราย และมาจากเรือนจำ 790 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,448,792 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 13,691ราย ยอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี2563 จำนวน 1,304,247ราย อยู่ระหว่างรักษา 129,421 ราย
ตาย171ศพ-ใส่ท่อลดลงทั่วปท.
ทั้งนี้ มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 3,851 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 787 ราย จะเห็นว่าผู้ป่วยปอดอักเสบเมื่อวันที่ 1 ก.ย. อยู่ที่ 4,917 ราย วันที่ 17 ก.ย. อยู่ที่ 3,851 ราย ผู้ป่วยที่ใส่ท่อหายใจวันที่ 1 ก.ย. อยู่ที่ 1,040 ราย วันที่ 17 ก.ย. 787 ราย เป็นแนวโน้มที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ สอดคล้องกับปริมาณเตียงที่รองรับได้เพิ่มขึ้น หลายจังหวัด อาจลดปริมาณเตียงลง แต่ขอว่าอย่าลดปริมาณเตียงสีเหลือง สีแดง เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน
เสียชีวิตเพิ่ม 171 ราย เป็นชาย 82 ราย หญิง 89 ราย เป็นผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 125 ราย มีโรคเรื้อรัง 38 ราย เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล 1 ราย ที่ จ.ตาก จังหวัดที่เสียชีวิตมากสุดคือ กทม. 41 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 15,124 ราย เริ่มวันที่ 24 กันยายน ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 227,826,370 ราย เสียชีวิตสะสม 4,683,977 ราย
ฉีดวัคซีนเกิน50%มีแค่8จว.
พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า สำหรับยอดผู้ได้รับวัคซีนของไทยเมื่อวันที่ 16 กันยายนฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 864,589 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา มีทั้งสิ้น 43,342,103 โดส จำนวนนี้เป็นการฉีดเข็มที่หนึ่ง 28,436,015 ราย คิดเป็น 39.5% ของประชากรทั้งประเทศ เข็มที่สอง 14,285,995 ราย คิดเป็น 19.8% ของประชากรทั้งประเทศ และขณะนี้ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรเกิน 50% แล้ว 8 จังหวัด ได้แก่ กทม. ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ภูเก็ต พังงา ครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 70% มี 5 จังหวัด ได้แก่ กทม. ปทุมธานี ภูเก็ต ระนอง พังงา
ขีดเส้นตค.ทุกจว.ต้องฉีดให้เกิน70%
หลังจากนี้ ศบค.มีแผนว่าตั้งแต่เดิอนตุลาคมเป็นต้นไป จังหวัดที่ฉีดให้ผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรัง 70% แล้ว ให้เร่งฉีดเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และขอให้แต่ละจังหวัดจัดให้มีอย่างน้อยจังหวัดละ 1 อำเภอ ที่ฉีดประชากรให้ได้ 70% อีกทั้ง ยังขอให้มี 1 อำเภอ ฉีดให้ได้ครอบคลุม 80% ของประชากร เพื่อเป็นต้นแบบของ Covid free area
ย้ำ24กย.บูสเตอร์คนฉีดซิโนแวค2เข็ม
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบสองเข็มไปตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคมไปแล้วนั้น จะเริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มสามวันที่ 24 กันยายน ขณะที่การฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 12-17 ปี กระทรวงศึกษาธิการจะเป็นเจ้าภาพดูแลในส่วนโรงเรียนทุกสังกัด โดยการฉีดให้เด็กผู้ปกครองต้องยินยอมด้วย ส่วนที่มีบางประเภทฉีดวัคซีนให้เด็กที่อายุ 3 ขวบขึ้นไปแล้วนั้น ปัจจุบันองค์การอาหารและยา (อย.) ของไทยยังไม่ให้การรับรอง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด
ไฟเขียวภูเก็ตนำร่องฉีดใต้ผิวหนัง
นอกจากนี้ มีรายงานจาก จ.ภูเก็ตว่า จากการทดลองฉีดวัคซีนใต้ผิวหนังแทนฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อ เมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันไม่ต่างกัน จ.ภูเก็ตจึงเสนอไปที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุขให้รับรองวิธีฉีดดังกล่าว เนื่องจากวัคซีน 1 โดสจะฉีดได้ถึง 5 คน โดยกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าให้เริ่มฉีดวัคซีนในลักษณะดังกล่าวที่ จ.ภูเก็ตก่อน
พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า วันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา สปสช.เริ่มแจกชุดตรวจ ATK ให้ประชาชนที่ลงทะเบียนและประเมินตัวเองไว้ในแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ไปแล้วเกินล้านชุด มีเสียงสะท้อนมาว่าจุดรับบางจุดไกล และแออัด เราจะรับข้อคิดเห็นไปปรับปรุง โดยปัจจุบันจะเน้นตรวจในกลุ่มที่มีความเสี่ยงก่อน แต่เมื่อเรามีชุดตรวจ ATK เพียงพอแล้ว จะปรับการประเมินกลุ่มเสี่ยงให้ครอบคลุมประชากรมากขึ้น เพราะหากเราเข้าสู่ระบบ Covit free setting แล้ว เราก็ต้องตรวจ ATK กันมากกว่าในปัจจุบัน
จับตาติดวงเหล้า/รร.ประจำ/รร.ทหาร
พญ.อภิสมัยยังกล่าวด้วยว่า หากไปดูหลายจังหวัด ที่ไม่ได้อยู่ใน 10 อันดับแรก แต่พบลักษณะติดเชื้อคล้ายคลึงกัน เช่น จ.เชียงใหม่ พบติดเชื้อในกลุ่มจัดงานเลี้ยง วงเหล้า สังสรรค์ อีกทั้ง ยังพบการสังสรรค์ในสถานที่ราชการ อาทิ สำนักงานการไฟฟ้า ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ การติดเชื้อจากวงดื่มน้ำกระท่อม จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบคลัสเตอร์โรงเรียนนายสิบ จ.ชลบุรี พบที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่ จ.เพชรบุรี และสระบุรี พบในแคมป์ก่อสร้าง จ.จันทบุรีพบในตลาด บางจังหวัดเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม แต่เราต้องเฝ้าระวัง ที่ประชุม ศปก.ศบค.เน้นย้ำไปที่โรงเรียนประจำ โรงเรียนทหารที่นักเรียนกินนอนกันอยู่ แต่บุคลากร ครู ต้องเดินทางเข้าออก นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค.จึงย้ำที่ประชุมผบ.เหล่าทัพให้กวดขันมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
เลี่ยงจัดเลี้ยงเกษียณจี้รัฐทำเป็นตัวอย่าง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมกันหลากหลาย เช่น เทศกาลกินเจที่เริ่มวันที่ 4 ตุลาคม. รวมถึงการจัดงานมุทิตาจิตให้ข้าราชการที่เกษียณอายุราชการ ศปก.ศบค.เข้าใจความสำคัญของงานเหล่านี้ แต่อยากกำชับว่าการจัดงานต้องมีมาตรการป้องกันโรค สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และถ้าเป็นไปได้ส่วนของงานมุทิตาจิต ขอไม่ให้จัดเลี้ยงสังสรรค์หรือรับประทานอาหาร ที่ต้องถอดหน้ากากอนามัย เพราะมีผู้สูงอายุอยู่ โดยผอ.ศปก.ศบค. เน้นย้ำว่าภาครัฐต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง
เบรกกทม.แซนด์บ็อกซ์ไม่ใช่มติศบค.
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเตรียมเปิดพื้นที่นำร่อง กทม.แซนด์บ็อกซ์ และหลายจังหวัด เพื่อรับนักท่องเที่ยว พญ.อภิสมัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน กทม.และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหารือกันและเสนอแผนจัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว กทม.แซนด์บ็อกซ์ โดย ศปก.ศบค. รับทราบและขอเรียนว่ายังไม่ถือเป็นมติที่อนุมัติในเรื่อง กทม.แซนด์บ็อกซ์ 15 ตุลาคม เพราะการเสนอแผนดังกล่าวต้องทำเป็นขั้นตอน โดยพื้นที่หารือร่วมกับในส่วนที่เกี่ยวข้อง และจำเป็นต้องเสนอผ่านกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อให้ตรวจสอบมาตรการอย่างรอบคอบรัดกุม เพราะกทม.เป็นพื้นที่ใหญ่มีความหลากหลายในพื้นที่จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียด เมื่อ สธ.พิจารณาแล้วต้องหารือกับ ศปก.ศบค.ก่อน แล้วจึงนำเสนอให้อนุมัติโดยศบค. ชุดใหญ่ เพราะการอนุมัติพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวต้องทำเป็นขั้นตอน เป็นมาตรการเดียวกันทุกพื้นที่
เปิดแซนบ็อกซ์ได้ระบบสธ.ต้องพร้อม
ทั้งนี้ สธ.จะพิจารณาความพร้อมของพื้นที่ มาตรการควบคุมโรคมีความพร้อมแค่ไหน หากมีรายงานผู้ติดเชื้อ เกิดคลัสเตอร์ พื้นที่มีมาตรการจะรับมืออย่างไร จะเห็นได้ว่าต้องประเมินตนเองของพื้นที่และประเมินโดยสาธารณสุข หน่วยงานรัฐ เอกชนที่เกี่ยวข้องด้วย กว่าที่จะกำหนดให้เป็นพื้นที่นำร่องได้ เช่น ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และการพบผู้ติดเชื้อไม่ได้หมายความว่า ถ้ามีผู้ติดเชื้อแล้วจะไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ระบบสาธารณสุขที่รองรับต้องพร้อม
คงมาตรการกักตัว14วันในAQ
“เมื่อจะทำแซนด์บ็อกซ์ที่ไหนก็ตามต้องพิจารณาหารือรอบคอบ เมื่อพูดถึงเปิดพื้นที่นำร่องกทม. ก็จะมีคำถามตามมาด้วยว่าการกักตัว 14 วันจะยกเลิกหรือไม่ คำตอบจากมติ ศปก.ศบค.วันที่ 17 กันยายน ยังคงมาตรการการกักตัว 14 วัน ใน AQ ตามมาตรการสาธารณสุข ยังไม่เปลี่ยนแปลง และเริ่มทบทวนการเปลี่ยนไปเป็นสถานที่พักแบบที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ทำ SHA Plus เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะบุคลากรที่ทำงานใน AQ ส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้ว คงต้องติดตามมติ ศบค. ชุดใหญ่เรื่องของกทม.แซนด์บ็อกซ์ และพื้นที่นำร่องจังหวัดอื่นๆ”พญ.อภิสมัย กล่าว และย้ำว่า ขอให้ทุกคนยังคงมาตรการ ครอบคลุมจักรวาล พยายามระวังตัวถึงแม้สถานการณ์ดูเหมือนว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง เปิดกิจการกิจกรรมให้มากขึ้น แต่การป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อยังคงต้องระวังต่อเนื่อง
นายกฯไม่พอใจยอดตาย-เร่งหาวัคซีน
ที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมโรงงานตามโครงการ Factory Sandbox หนึ่งในโครงการนำร่องป้องกันและควบคุมการระบาดในโรงงาน โดยนายกฯกล่าวขอบคุณประเทศญี่ปุ่นและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่เป็นมหามิตรที่ดีต่อไทยมานาน พร้อมขอบคุณนักลงทุนญี่ปุ่นที่เชื่อมั่นเดินหน้าธุรกิจ หวังให้ลงทุนในไทยมากขึ้น นอกจากนี้ นายกฯยังกำชับเรื่องการฉีดวัคซีน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนราชการในท้องที่ดูแลให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนมากที่สุด โดยเฉพาะลูกจ้างแรงงานต้องดูแลให้ทั่วถึง เพราะเป็นกำลังสำคัญในการผลิต หากดำเนินการได้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการต่างประเทศลงทุนในไทยมากขึ้น ฝากให้ผู้ประกอบการกำหนดมาตรการดูแลลูกจ้าง และครอบครัวลูกจ้าง โดยส่วนตัวนายกฯแล้วยังไม่พอใจยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด พร้อมให้ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะทำเต็มที่ในการจัดหาวัคซีนให้คนไทยทุกคนได้ฉีดมากที่สุด
ห่วงรง.ไซต์กลาง-เล็กไม่ผ่านแซนด์บ็อกซ์
นายกฯยังระบุด้วยว่า โครงการ Factory Sandbox นายกฯรู้สึกสบายใจต่อมาตรการดำเนินงานของโรงงานขนาดใหญ่ แต่เป็นห่วงกังวลต่อการดำเนินการสำหรับโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนขยายการดำเนินโครงการ Factory Sandbox ให้มากขึ้น เพื่อฟื้นเศรษฐกิจให้ประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน
ยันดูแลสถานประกอบการให้ดีที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์แถลงหลังตรวจเยี่ยมโรงงานว่า เราจะร่วมมือกัน วันนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี ต้องขอขอบคุณประธานบริษัทมิตซูบิชิฯ ลูกจ้างพนักงานทุกคนที่ต้อนรับตนอย่างดียิ่ง และสรุปรายงานปฏิบัติการตามมาตรการรัฐบาลเรื่อง Factory Sandbox ทำให้เกิดความปลอดภัยในสถานที่ประกอบการ ตนได้พูดคุยกับประธานบริษัทฯไปแล้วว่า เราพร้อมส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นในประเทศไทย
“ผมยืนยันว่า จะดูแลให้ดีที่สุดไม่ว่าจะสถานประกอบการขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็กที่มีอยู่ในปัจจุบันเราจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนคำนึงถึงสภาพแวดล้อมให้ดีที่สุด เป็นไปตามวาระของโลก การพัฒนาประเทศเรื่องการลงทุนยุคใหม่ ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพราะหากวันข้างหน้าเจอมาตรการต่างประเทศจะเกิดปัญหากับผู้ประกอบการของเรา ฉะนั้นต้องช่วยกัน”นายกฯกล่าว
ย้ำฟังหมอถ้าช่วยทำเซฟโซนปลดล็อคเพิ่ม
และว่า ในเรื่องควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด ได้รับการยืนยันว่าจะพยายามทำเต็มที่ วันนี้เตียงก็ว่างขึ้นในการนำคนเข้าระบบการรักษา ตรวจคัดกรองด้วย ATK และ RT-CPR จะเห็นว่าตัวเลขยังทรงๆ ซึ่งเราตรวจเชิงรุกมากขึ้น ทำให้พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่สิ่งสำคัญต้องไปดูว่ายอดคนที่รักษาหายเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ และต้องไปดูการรักษาในระบบรักษาที่บ้าน (Home Isolation) การรักษาในชุมชน (Community Isolation) และการบับเบิ้ลแอนด์ซีล ทั้งนี้ เราต้องอยู่กับโรคนี้ไปอีกนานแต่จะอยู่อย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือ มาตรการทางสังคมที่ต้องช่วยกันดูแล ช่วยกันรักษา ช่วยกันเตือน ทั้งนี้ หลายธุรกิจที่ปิดไปช่วงนี้ เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุข ซึ่งตนต้องฟังหมอ ถ้าทุกคนทำให้พื้นที่ปลอดภัยก็ปลดล็อกได้อีกหลายกิจกรรม ตนเข้าใจดีถึงความเดือดร้อนของประชาชนทุกคน เราจะอยู่รวมกับโควิดได้อย่างไร โลกยุคหลังโควิดไม่ใช่โลกใบเดิมของเราอีกแล้ว เราต้องอยู่อย่างนี้อีกนาน ขอให้เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทย ที่มีชื่อเสียงทั่วโลกยอมรับ และขอให้ฟังช่องทางสื่อสารของรัฐบาล
ลั่นจะทำบ้านเมืองให้สงบได้มากที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเป็นโลกดิจิตอล ทุกคนต้องเรียนรู้ประโยชน์จากออนไลน์ วันนี้เรากำลังเดินหน้าไปสู่การทำบิ๊กดาต้าของประเทศ การทำแพตฟอร์มของรัฐบาลให้ประชาชนเข้าถึง ส่วนการพัฒนาในพื้นที่อีอีซีเป็นการวางอนาคตให้ประเทศไทยที่จะทำอย่างไรให้จีดีพีสูงขึ้นจากการลงทุน ซึ่งขณะนี้รัฐบาส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสมาร์ทวีซ่าที่ให้คนต่างประเทศเข้ามาถ่ายทอดเทคโนโลยีในประเทศไทย และยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะมีปัญหาอุปสรรคอะไร ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็มุ่งเน้นความเดือดร้อนของประชาชนทั่วประเทศเป็นหลัก ความรับผิดชอบมากขนาดนั้น ไม่ใช่แค่จ.ชลบุรีอย่างเดียว วันนี้สังคมโชเชียลไม่สามารถควบคุมได้มากนัก ขอให้ทุกคนมีภูมิต้านทานในการเชื่อ ในการอ่าน ในการเสพ ในการโพสต์ต่อบ้านเมืองจะได้สงบซักที
“ผมยืนยันว่า จะทำให้บ้านเมืองสงบให้ได้มากที่สุด แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชน ส.ส.ทุกคนที่อยู่ฝ่ายนิติบัญญติ ผมฝ่ายบริหาร เรื่องความยุติธรรมเป็นเรื่องอำนาจของตุลาการ มีอยู่ 3 อำนาจ ฉะนั้นผมจะทำหน้าที่ฝ่ายบริหารให้ดีที่สุด รวมมือกับฝ่ายนิติบัญญัติในการพลิกโฉมประเทศไทยให้ได้” นายกฯ กล่าว
สัญญาพลิกโฉมไทยรายได้สูงให้ได้
และเผยว่า วันนี้อยู่ในขั้นตอนเยียวยา แต่อนาคตข้างหน้าจะพลิกโฉมประเทศ จากรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูงให้ได้ ต้องทำทุกอย่าง ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนจะต้องร่วมมือกับรัฐบาล เข้าใจซึ่งกันและกันจึงจะไปได้ ก็ขอฝากหัวใจไว้กับชาวชลบุรี
อ้อนคนเมืองชลรักษาหัวใจนายกฯ
“รักษาหัวใจผมให้หน่อย ผมจะได้แข็งแรงในการทำเพื่อประเทศชาติ ยืนยันว่าตลอดระยะเวลาผมดูแลข้าราชการ ให้ความเป็นธรรมเพื่อให้ทำงานและมีวิสัยที่ดี สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ขอบคุณทุกคน ขอบคุณในรอยยิ้ม ขอบคุณกำลังใจที่ให้กับผม ผมจะทำให้คนไทยมีความสุขให้ได้ แต่ต้องใช้เวลามากพอสมควรเพราะปัญหาเราเยอะ และขอบคุณสื่อมวลชน ช่วยรัฐบาลนิดนึง ผมไม่ได้หมายความว่าจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรไม่ได้ แต่ก็ตามสมควรและอย่าสร้างความขัดแย้งเท่านั้น”นายกฯระบุ
‘อัศวิน’ยังไม่ฟันธงเปิดกทม.15ตค.
วันเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ผู้ว่าฯกทม.)กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ กทม.(BMV) ที่จุดโกดังสเตเดี้ยม การท่าเรือ เขตคลองเตย โดยกล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวว่า กทม.หารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกทม.แจ้งไปว่า ตามแผนเดิมจะฉีดเข็ม 2 ได้70 % คือ วันที่ 22 ตุลาคม แต่หากมีวัคซีนเข้ามาเร็วขึ้น ก็จะฉีดให้ได้ทันก่อนวันที่15 ตุลาคม อย่างไรก็ตาม ไม่เคยพูดว่าจะฟันธงเปิด 15 ตุลาคม รับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว เพราะต้องคำนึงถึงคนส่วนใหญ่
ฉีด2เข็มเกิน70%ก่อนตัดสินใจ
ส่วนกรณีว่าอยากเปิดหรือไม่ ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า อยากเปิด แต่ต้องระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วย และต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้ครบมากกว่า 70% ก่อน แล้วค่อยมีการประเมินอีกครั้ง ซึ่งจากจำนวนประชากรใน กทม.มีประมาณ 7ล้านคน 70% ก็ต้องฉีดเข็ม 2 ให้ได้ประมาณ 4.9 ล้านคน โดยเดือนตุลาคม หากแผนจัดสรรวัคซีนเป็นไปเป้าหมายก็จะฉีดเข็ม 2 ได้เกิน 70% ก่อนวันที่15 ตุลาคม แต่ไม่ได้หมายความว่าหลังฉีดครบเข็ม 2 เกิน 70% วันนี้ อีกวันจะเปิดเมืองได้ทันที ต้องประเมินให้ได้ข้อสรุปมาตรการ ทั้งกักตัวของกลุ่มประเทศที่จะเปิดให้เข้ามาเที่ยวได้ก่อน เพราะแต่ละประเทศความเสี่ยงต่างกันการกักตัวจะต่างกันไปด้วย
สปสช.แจกATKแล้ว8,598ชุด
ขณะที่นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่ สปสช.ดำเนินการนโยบายแจกชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (Antigen Test Kit : ATK) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตนเอง โดยเริ่มแจก ATK แล้วเมื่อวันที่ 16 กันยายนเป็นวันแรก กระจายไปที่ร้านยา และคลินิกชุมชนอบอุ่นในกทม.แล้ว และบางจังหวัดที่มีการระบาดโควิดเขตสีแดงเข้มที่จัดส่งแล้วคือ จ.ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา สระบุรี นนทบุรี ตากและอุตรดิตถ์ โดยภาพรวมวันที่ 17 กันยายน เวลา 11:05 น. มีประชาชนรับชุดตรวจ ATK แล้วทั้งสิ้น 4,299 ราย รวม 8,598 ชุด ในจำนวนนี้เป็นการขอรับผ่านแอปเป๋าตัง 4,295 ราย ส่วนอีก 4 ราย แจกโดย อสม.
ส่วนความคืบหน้าการกระจายชุดตรวจ ATK จากข้อมูลองค์การเภสัชกรรม (อภ.) แบ่งการตรวจรับ ATK เป็น 4 งวด งวดที่ 1 จำนวน 1.167 ล้านชุด ตรวจรับเรียบร้อยแล้วและกระจายไปตามหน่วยบริการในบางพื้นที่ตามข้อมูลข้างต้น ส่วนงวดที่ 2 และงวดที่ 3 จำนวน 2.155 ล้านชุด และ 1.4 ล้านชุด อยู่ระหว่างรอตรวจรับที่จะแล้วเสร็จวันนี้ และเตรียมกระจายไปหน่วยบริการในเขต 4, 5, 6, 11 และเขต 12 คาดว่าจะได้รับวันที่ 18 กันยายน ส่วนงวดที่ 4 จำนวน 3.778 ล้านชุด ที่เป็นล็อตสุดท้าย จะตรวจรับอีกครั้งวันที่ 22 กันยายน โดยจะทยอยส่งให้หน่วยบริการในเขต 1, 2, 3, 8, 9 และเขตที่ 10 ต่อไป
บันทึกผลตรวจเข้าระบบแค่249เจอบวก2
นพ.จเด็จกล่าวต่อว่า จากการประชุมติดตามการแจก ATK ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังมีประเด็นจุดรับชุดตรวจ ATK โดยใน กทม.มีปัญหาจำนวนร้านยาที่เข้าร่วมโครงการไม่รองรับบางพื้นที่ ได้แก่ เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง และอ่อนนุช จะปรับเปลี่ยนโดยกระจายผ่านคลินิกชุมชนอบอุ่นในพื้นที่มากขึ้น ส่วนในต่างจังหวัดล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายมอบให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ช่วยกระจายชุดตรวจ ATK ในชุมชน ตลาด ขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะช่วยทำให้ประชาชนต่างจังหวัดสะดวกในการรับชุดตรวจ ATK เพิ่มมากขึ้น
นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว จากข้อมูลรายงานการรับชุดตรวจ ATK พบว่า ประชาชนที่รับชุดตรวจ ATK บันทึกผลตรวจเข้ามาในระบบเพียง 249 ราย ในจำนวนนี้มีผลเป็นบวก 2 ราย จะรีบติดตามเพื่อนำเข้าระบบรักษา พร้อมขอความร่วมมือประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่รับ ATK ไปแล้ว ขอให้รีบตรวจหาเชื้อโดยเร็ว เพื่อนำเข้าระบบติดตามและเฝ้าระวัง ที่จะมีผลต่อการลดการระบาดในประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี