จ่าทหารพรานหึงโหดยิงเมียซึ่งเป็นครูอนุบาลและแม่ยายดับ 2 ศพเพื่อนลูกสาวเมียบาดเจ็บ ส่วนลูกสาวถูกปืนจ่อหัวแต่หนีรอดมาได้หวุดหวิด ก่อนขับรถเก๋งหนีแต่พลิกคว่ำจี้วัยรุ่นขับไปส่งในเมืองสะบ้าย้อย สาเหตุมาจากความหึงหวง เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมคาดว่าน่าจะหนีไปกบดานบ้านเกิดที่ จ.ตรังหรือไม่ก็ จ.ยะลา 

วันที่ 24 กันยายน 2564 ร.ต.ท.ธนกร ด้วงดุด สองสารวัตรสอบสวน สภ.สะบ้าย้อย ได้รับแจ้ง เกิดเหตุยิงกันตายที่บ้านเลข อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภกิตติ์ ประจันตะเสน รองผู้กำกับการสอบสวน ปฏิบัติราชการแทนผู้กำกับการสภ.สะบ้าย้อย พ.ต.ต.สุริวงค์ สมทรง ผบ.ร้อย ตชด.437 ร.ต.ท.จริน  คังคะสุวรรณ รองหัวหน้าชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4307 และเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 

ที่เกิดพบบ้านเป็นบ้านชั้นเดียวภายในบ้านมีผู้หญิงถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านสองคนเป็นแม่ลูกกัน คนแรกชื่อ น.ส.จุฑามาศ อายุ 38 ปี หรือครูปลาเป็นครูอนุบาล ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่บริเวณศรีษะ จำนวน 2 นัด นั่งเสียชีวิตอยู่ตรงประตูบ้าน 

ส่วนอีกคนคือ นางเรียม อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นแม่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณศรีษะ จำนวน 2 นัด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนพื้นกลางบ้าน  และมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 คนคือนางสาวสุนิษา อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของลูกสาวครูปลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม.เข้าที่บริเวณหัวไหล่ด้านขวา 1 นัด ข้อมือด้านขวา 1 นัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลสะบ้าย้อย และส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลา ส่วน น.ส.สุรีรัตน์ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวครูปลา และอยู่ในบ้านในตอนเกิดเหตุปลอดภัย  

 จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 ปลอก พร้อมกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 1 นัด ตกบริเวณเกิดเหตุ และที่หน้าบ้านยังมีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ซึ่งเป็นรถของ จ.ส.อ.พีระพัฒน์  หรือจ่าแอน อายุ 37 ปี เป็นทหารพราน 47 ปฏิบัติหน้าที่อยู่วัดสวนแก้ว อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุจอดอยู่หน้าบ้าน  

ส่วน จ.ส.อ.พีระพัฒน์ หลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋ง ซึ่งเป็นรถของครูปลา หลบหนีไปแต่รถได้ไปประสบอุบัติเหตุชนแท่งแบริเออจนพลิกคว่ำงายท้องริมถนน บริเวณหน้าวัดบาโหย ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร  และได้ใช้อาวุธปืน M. 16 ยิงขู่ขึ้นฟ้าจำนวน 1 นัด และจี้บังคับชายวัยรุ่นที่ขับรถผ่านมาให้ไปส่งในตัวเมืองสะบ้าย้อยหลบหนีไปได้  และได้ทิ้งอาวุธปืนเอ็ม 19 ไว้ริมถนนห่างจากจุดที่รถพลิกคว่ำประมาณ 8 กิโลเมตร   

จากการสอบสวนทราบว่า จ.ส.อ.พีระพัฒน์ กับ น.ส.จุฑามาศ หรือครูปลา คบหาอยู่กินกันได้ประมาณ 1 ปีแต่ยังไม่ได้แต่งงาน ก่อนเหตุได้เดินทางมาหาครูปลา ที่บ้านพักและเกิดมีปากเสียงกันจากความหึงหวงเนื่องจากพักหลังครูปลาพยายามตีตัวตัวออกห่างแต่จ่าแอน ไม่ยอมตามมาถามความจริงว่ามีชายหรือไม่ ด้วยความโมโหจึงใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงทั้งครูปลาและแม่ที่อยู่ในบ้านเข้าที่ศรีษะคนละ 2 นัดเสียชีวิตคาที่ และกระสุนยังไปโดนเพื่อนของลูกสาวบาดเจ็บอีก 1 คน  ส่วนลูกสาวของครูปลา หนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด  

ด้าน ลูกสาวของครูปลา ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุนั่งอยู่ในบ้านด้วยกัน 4 คน และจ่าแอนได้สอบถามแม่ว่ามีคนใหม่มั้ย และจ่าแอน ได้โทรศัพท์ไปหาชายอีกคนและได้เดินออกไปหน้าบ้าน สักพักได้เดินกลับเข้ามาและใช้อาวุธปืนยิงแม่ 2 นัดเข้าที่ศรีษะจนล้มลง   และจับตนกดหัวลงพื้นเอาปืนจ่อหัว แต่มียายวิ่งเข้าห้ามจ่าแอนจึงได้ยิงยายอีก 2 นัด และตนดิ้นหลุดจึงวิ่งหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิดทีแรกที่คิดว่าน่าจะไม่รอด  ส่วนเพื่อนที่อยู่ในบ้านไม่รู่ว่าถูกยิงตอนไหน และเหตุการณ์นี้ไม่ยอมให้อภัยจ่าแอนเด็ดขาด

ด้านป้าของครูปลา เล่าว่า ช่วงหัวค่ำเห็น จ.ส.อ.มาที่บ้านครูปลา และได้ยินเสียงครูปลาพูดว่ามาทำไม เราไม่ค่อยจะลงรอยกันแล้ว และได้มีการทำกับข้าวกินกัน และได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทแม่ของครูปลาที่อยู่บ้านติดกันจึงเข้าไปดูและเห็นจ่าแอน ได้ชักปืนออกมาจะยิงครูปลาจึงได้เข้าไปห้าม สุดท้ายก็ถูกยิงตายทั้งคู่ 

ด้านเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามก็เล่าตรงกันว่าได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะวิวาทกันและมีเสียงปืนตามมา 6-7 นัด จึงวิ่งออกมาดูเห็นฝ่ายชายขับรถเก๋งออกไปอย่างรวดเร็ว  

นายสิทธิโชค อุดทิพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บาโหย เล่าว่า หลังเกิดเหตุ จ่าแอน ได้ขับรถมาประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำที่หน้าวัดบาโหย ทีแรกชาวบ้านคิดว่าเป็นแค่รถพลิกคว่ำธรรมดา จึงพากันออกมาดูและเห็น จ่าแอน คลานออกมาจากรถ และได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงขู่1 นัดชาวบ้านจึงรีบถอยห่างจากนั้นจึงได้จี้บังคับวัยรุ่นคนหนึ่งให้ขับรถจักรยานยนต์มาส่งที่ตัวเมืองสะบ้าย้อย และระหว่างทางได้โยนอาวุธปืนเอ็ม16 ทิ้งจึงได้ไปตามเก็บไว้ที่ป้อมชรบ.ส่วนสาเหตุทราบแค่ว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว 

ส่วนเพื่อนครูของครูปลาที่มีบ้านอยู่ตรงจุดที่รถเก๋งพลิกคว่ำก็บอกตรงกันว่าได้ยินเสียงรถพลิกคว่ำจึงออกมาดูก็เห็นผู้ชายคลานออกมาจากรถและคล้ายกับคนเมา ตอนแรกชาวบ้านจะเข้าไปช่วยแต่ชายคนนี้ได้ยิงปืนขู่1นัดชาวบ้านจึงไม่กล้าเข้าไปและได้จี้รถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นที่ขับผ่านมาพาหลบหนีไป  

โดยก่อนหน้านี้ครูปลาเป็นอดีตลูกจ้างและสอนอยู่ด้วยกันที่โรงเรียนบ้านบาโหย ก่อนที่จะย้ายเป็นสอนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบาโหย และเป็นคนที่อัธยาศรัยดีมากตั้งใจทำงานเป็นที่รักของเด็กๆและเพื่อนครูด้วยกัน 

 ส่วนบรรยากาศที่วัดบาโหยมีญาติพี่น้องของครูปลามาญาติเตรียมสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพโดยจะนำศพครูปลาและแม่มาบำเพ็ญกุศลคู่กันซึ่งญาติต่างเศร้าโศรกเสียหายและไม่ให้อภัยกับผู้ก่อเหตุและเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมโดยเร็ว 

 ส่วน จ่าแอน คาดว่าหลังก่อเหตุน่าจะติดต่อให้มีคนมารับไปและเป็นไปได้ว่าอาจจะหลบหนีกลับภูมิลำเนาในพื้นที่จ.ตรังหรือไม่ก็เก็บอยู่ในพื้นที่จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทำงานอยู่ โดยทางต้นสังกัดและเพื่อนสนิทพยายามติดต่ออยู่แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ -007