เปิดลงทะเบียนแล้ว
‘เที่ยวด้วยกัน’เฟส3
ช่วยค่าห้องพัก40%
2ล้านสิทธิ์เริ่ม15ต.ค.
เปิดให้ลงทะเบียนแล้วโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 รับ 2 ล้านสิทธิ์มีโปรโมชั่นเพียบทั้งช่วยค่าห้องพัก-ค่าตั๋วเครื่องบิน 40 เปอร์เซ็นต์ ยันคูปองอาหาร รัฐบาลเชิญชวนทั่วหน้า หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว ใช้จ่ายช่วงปลายปี
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนและผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร การบริการท่องเที่ยว ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ‘เราเที่ยวด้วยกัน’เฟส 3 ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนวันนี้เป็นวันแรก โดยโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ให้สิทธิ 2 ล้านสิทธิเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของประชาชน
โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ทั้งนี้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน สูงสุดไม่เกิน 15 ห้อง หรือ 15 คืน , สนับสนุนคูปองอาหาร/ท่องเที่ยวมูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืน ให้กับประชาชนเมื่อ check-in โรงแรมสำเร็จ โดยคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว สามารถใช้ได้ที่ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ โดยประชาชนชำระ 60% และรัฐบาลสนับสนุนอีก 40% ผ่านการตัดเงินจากคูปอง พร้อมทั้งยัง สนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ไม่เกิน 2,000 บาท หรือ 3,000 บาท ตามเงื่อนไขของจังหวัดด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่าประชาชนสามารถลงทะเบียนรับสิทธิได้ที่เว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน .com สำหรับผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน เมื่อลงทะเบียนรับสิทธิแล้ว จะเปิดให้ลงทะเบียนจองที่พัก โรงแรมในวันที่ 8 ต.ค.2564 ถึง 23 ม.ค.2565 เริ่มเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.2564เป็นต้นไปและจะสิ้นสุดโครงการในวันที่31ม.ค.2565
สำหรับประชาชนที่เคยลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 1และ2แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิใหม่สามารถใช้สิทธิที่คงเหลือต่อได้ โดยเริ่มจองโรงแรม/ที่พักตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.-23 ม.ค. 65
น.ส.ไตรศุลีกล่าวอีกว่าโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวัน 21 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ ยังมีโครงการทัวร์เที่ยวไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวและบริการในช่วงปลายปี โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าการท่องเที่ยวภายในประเทศปีนี้ว่าจะเกิดการเดินทางประมาณ 90 ล้านคน-ครั้ง โดยไม่ต่ำกว่าปี 2563 สร้างรายได้ 4 แสนล้าน และคาดว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการทัวร์เที่ยวไทย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานประกันสังคม(สปส.)เริ่มโอนเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตน มาตรา33มาตรา 39 และมาตรา 40 ใน29 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม ใน 9 ประเภทกิจการ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน ในช่วง 20-28 ก.ย.64 มีทั้งกลุ่มที่ได้รับครั้งแรก รับรอบ 2 และรับรวดเดียว (รอบ 1+2)
โดยวันที่ 20-21 ก.ย. ผู้ประกันมาตรา 40 ใน 16 จังหวัดสีแดงเข้ม ที่ขึ้นทะเบียนใหม่ ได้รับเป็นกลุ่มแรก, วันที่ 21 ก.ย. ผู้ประกันมาตรา 39 ใน 13 จังหวัดสีแดงเข้ม รับรอบ 2 และวันที่ 22-23 ก.ย. ผู้ประกันมาตรา 40 ใน 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ได้รับรอบ 2 คนละ 5,000 บาท ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่เชื้อโควิด 19 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด
สำหรับวันที่ 24 ก.ย.นี้ เป็นวันหยุดพิเศษ สำนักงานประกันสังคม หยุดการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตน และ จะเริ่มโอนเงินอีกรอบในวันที่ 27 ก.ย. ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 รอบ2 ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา จำนวน 3.5 ล้านคน จะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชนรอบ 2 อีกคนละ 2,500 บาท
วันที่ 28 ก.ย. โอนเงินเยียวยาประกันสังคมมาตรา 40 ในพื้นที่ 3 จังหวัดสีแดงเข้ม คือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา จำนวน 3.45 แสนคน ที่ขึ้นทะเบียนใหม่และจ่ายเงินสมทบเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ระหว่างวันที่ 4-24 ส.ค.64 จะได้การโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชนรอบ 2 อีกคนละ 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี