ผู้ว่าฯ โคราชยันอ่างฯลำเชียงไกร ตอนล่าง ไม่ได้แตก เผยเป็นแผนเพิ่มช่องทางระบายน้ำออกจากอ่าง สั่งทุกอำเภอจัด เวรยาม 24 ชม.เฝ้าบ้านเรือน ปชช. หลังอพยพ ป้องกันมิจฉาชีพ อบจ.เมืองย่าโมเต้นรุดดูแลช่วยเหลือชาวบ้านให้กำลังใจ ระบุไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน ขอให้เอาคนออกมาก่อน พร้อมนำเครื่องมืออุปกรณ์หนักบูรณาการทุกภาคส่วน
27 กันยายน 2564 ที่ห้องประชุมนางสาวบุญเหลือ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19และจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โดยมีตัวเอกภาคเอกชน ประธานหอการค้า อุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และผู้แทนส่วนราชการ ร่วมประชุม
นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆ โดยเฉพาะลุ่มน้ำลำเชียงไกรบนว่าจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้มีมวลน้ำไหลเข้าในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบนและมวลน้ำดังกล่าวได้ไหลต่อเข้ามายังอ่างลำเชียงไกรตอนล่าง ทำให้ทางชลประทานจำเป็นต้องเปิดช่องทางระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างเพิ่มเติมจากเดิม เพื่อระบายน้ำออกเท่านั้นไม่ได้เกิดจากอ่างเก็บน้ำแตกหรือเสียหายจากน้ำแต่อย่างใด ช่องระบายน้ำที่เกิดขึ้นเป็นเจตนาในการเพิ่มช่องทางระบายน้ำออกจากอ่างเท่านั้น เนื่องจากน้ำเกินความจุของอ่าง ซึ่งที่ผ่านมาปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรเกินความจุมาก่อนแล้ว และได้มีการระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจากมวลน้ำที่มากขึ้นหากไม่มีการเปิดช่องระบายน้ำเพิ่มเติมอาจจะทำให้สันเขื่อนเกิดความเสียหายได้ ลุ่มน้ำลำเชียงไกรขณะนี้ถือเป็นลุ่มน้ำที่น่าเป็นห่วงที่สุด ส่วนลุ่มน้ำลำพระเพลิง ลำตะคอง ยังต้องเฝ้าระวังจับตาเช่นกันจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พี่น้องประชาชนทุกพื้นที่จะต้องขนย้ายทรัพย์สินขึ้นสู่ที่สูง แต่ชีวิตต้องสำคัญกว่าทรัพย์สินหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขอให้พี่น้องประชาชนรีบอพยพตัวเองออกมาสู่ที่ปลอดภัยเป็นอันดับแรก
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา มีระดับน้ำเก็บกัก 41.96 ล้าน ลบ.ม. (151.49%) ซึ่งเกินระดับเก็บกักสูงสุด และมีน้ำส่วนเกินไหลล้นผ่านทางระบายน้ำล้นฉุกเฉิน (Emergency Spillway) และเนื่องจากมีปริมาณน้ำท่าจากลุ่มน้ำลำเชียงไกร ตอนบน อ.เทพารักษ์ และ อ.ด่านขุนทด เป็นปริมาณมากไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่างจนกระทั่งน้ำเกิดไหลข้ามทำนบชั่วคราวของบ่อก่อสร้าง และข้างตัวอาคาร กว้างประมาณ 15.00 เมตร จึงได้ใช้ช่องทางระบายน้ำที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารระบายน้ำเพื่อเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระบายน้ำ แทนที่จะต้องตัดคัดดินที่ต้องเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อที่ต้องการให้ปริมาณน้ำออกเท่ากับหรือมากกว่าน้ำเข้าเพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวทำนบดินอ่างเก็บน้ำ ซึ่งยาว 3,600 ม.ปัจจุบันอัตราการไหลของน้ำผ่านช่องทางดังกล่าว ประมาณ 400 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในลำเชียงไกลและลำน้ำสาขา มีปริมาณเพิ่งสูงขึ้นและจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำ และพื้นที่ริมตสิ่ง
อย่างไรก็ตามได้สั่งการ ให้อำเภอด้านท้ายอ่าง ได้แก่ อำเภอโนนไทย พระทองคำ เมืองนครราชสีมา โนนสูง พิมาย ชุมพวง ลำทะเมนชัย และอำเภอเมืองยาง แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยง อันตรายสูง ระดับที่ส้ม ระวังติดตามมวลน้ำไหลเชี่ยวแรง ดูแลเด็กและคนชรา ผู้ปวยติดเตียงโดยขอให้อำเภอพิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย
"โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมน้ำและที่ลุ่มต่ำให้เก็บทรัพย์สินสิ่งของจำเป็นขึ้นไว้สูงกว่าที่เคยประสานท้องถิ่นให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ จัดหาและสนับสนุนกระสอบทรายให้กับประชาชนเพื่อปีดกั้นน้ำเข้าบ้านเรือนและพื้นที่สำคัญ จัดรถกระจายข่าวแจ้งเตือนประชาชนให้ทั่วถึง และจัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อประสานกำลังพลสนับสนุนการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงที่เตรียมไว้ล่วงหน้า พร้อมให้จัดตั้งโรงครัว เพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ให้เจ้าหน้าที่และฝ่ายปกครอง มีการจัดชุดลาดตระเวนตรวจตรา ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันผู้ฉกฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สิน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชน" นายกอบชัย กล่าว
ด้าน ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกอบจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยรองนายก อบจ. ส.อบจ. หัวหน้าส่วนสำนักการช่าง อบจ.ร่วมกันได้ลงพื้นที่บ้านวัง ต.หนองสรวง อ.ด่านขุนทด ตรวจสอบสะพานซึ่งถูกกระแสน้ำที่ไหลมาจาก อ.ด่านขุนทดฯอย่างเชี่ยวกราดกัดเซาะคอสะพานขาด หลายหมู่บ้านถูกตัดขาด พร้อมสั่งการให้นำเครื่องจักรกลดำเนินซ่อมแซมอย่างเร่งด่าน
ต่อมาได้เดินทางไปยังต.บัลลังก์ อ.โนนไทยฯ เพื่อดูสถานการณ์ของอ่านเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ซึ่งคันกั้นดินจุดที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงต่อเติมช่องระบายน้ำชำรุดมีความกว้างประมาณ 10-20 เมตร ทำให้มวลน้ำไหลลงสู่ด้านล่างจำนวนมาก
ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล กล่าวว่า ตั้งใจในการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ครั้งนี้อีกครั้งหนึ่งของ จ.นครราชสีมาโดยขณะนี้ทราบว่าประมาณ 10 อำเภอที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนักแล้ว บางพื้นที่ชาวบ้านบอกน้ำท่วมในรอบ 10 ปี บางพื้นที่ท่วมหนักในรอบ 50 ปี ชาวบ้านบางคนบอกว่าปัจจุบันอายุ 53 ปีเพิ่งเคยเจอน้ำท่วมมากขนาดนี้ โดยปกติบางพื้นที่น้ำแล้งแทบจะไม่มีน้ำทำการเกษตร หรือน้ำกินน้ำใช้ แต่คราวนี้มามากเหลือเกิน
อย่างไรก็ตามอบจ.เรามีเครื่องมือเครื่องจักรที่จะบูรณาการกับทางจังหวัดและทุกภาคส่วน ตนอยากฝากไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยว่า ขณะมีกระแสมาแรงและเข้าท่วมบ้านเรือน อย่างที่ผู้ว่าฯ นครราชสีมาได้แจ้งเตือนว่า ทรัพย์ต่างๆ ไม่ต้องไปเป็นห่วง ขอให้อพยพเอาคนออกมาก่อน เรียกว่า เอาชีวิตรอดออกมาก่อน ซึ่งทาง อบจ.เรามีถุงน้ำใจ และโรงครัวประกอบอาหารที่จะนำไปมอบให้พี่น้องประชาชนขณะนี้ขอให้ทุกคนปลอดภัยก่อน
ส่วนเรื่องบช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหรืองบซับน้ำตาพี่น้องผู้ประสบภัย ตรงนี้มีงบอยู่ 3 ส่วน คือ งบของส่วนราชการ ,งบของท้องถิ่น ,งบการยัยยั้งหรืองบการบรรเทาสาธารณภัย หลังจากนั้นก็อาจจะเป็นเงินบริจาค รวมทั้งเงินทองทุนสำนักนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นเรื่องงบประมาณคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ดร.ยลดา กล่าวต่ออีกว่า โดยเฉพาะได้ไปตรวจดูที่อ่างฯ ลำเชียงไกร ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา รวมทั้งต.โคกสูง อ.เมือง บ้านลำเชิงไกร และ อ.ด่านขุนทด ,อ.เทพารักษ์ โดยพบภาพขณะชาวบ้านต้องขุดหัวมันสำปะหลังก่อนกำหนด ใส่รถอีแต๊ก 3 คันฝ่ากระแสน้ำท่วมเพื่อนำไปขายโรงงานอย่าทุลักทุเล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี