กม.คดีพิเศษเปิดช่อง‘สมศักดิ์’สั่งปลัดยธ.รับลูกจ้าง-บริษัทเอกชน 100 อัตรา ช่วยสางคดีรถหรู 1,428 คัน เหตุดีเอสไอมีพนักงานสอบสวนแค่ 4 คนทำไม่ทัน ชี้เคลียร์ได้หมดรัฐได้ภาษี 1 หมื่นล้านบาท ร้อมสรุปผลงานรอบปีส่ง ครม.
29 กันยายน 2564 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระ ทรวงยุติธรรม แถลงผลงานของกระ ทรวงยุติธรรม ประจำปี 2564 ร่วมกับผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) สรุป และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมมีหลายนโยบายสำคัญ โดยในส่วนของกรมราชทัณฑ์จะต้องลดจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำจากจำนวนกว่า 3 แสนคน ให้เหลือ 2.8 แสนคน ซึ่งทำได้แล้ว โดยใช้วิธีการพักโทษผู้ต้องขังที่มีโทษไม่ร้ายแรง 1 ใน 3 เป็นการพักโทษมีเหตุพิเศษ โดยติดกำไล EM จำนวน7.4 หมื่นคน ขอพระราชทานอภัยโทษให้ผู้ต้องขังที่มีโทษไม่มาก
นอกจากนี้ยังต้องดูแลผู้ที่พ้นโทษไปแล้วไม่ให้กลับเข้าสู่เรือนจำอีก โดยสร้างอาชีพให้ทำทั้งด้านการเกษตรปศุสัตว์ โหราศาสตร์ บางคนเข้าคุกมาแล้ว 7 ครั้ง แต่ไม่มีที่ใดรับเข้าทำงาน จึงต้องแก้ปัญหาโดยตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์เพื่อรองรับ จึงประสานกับบริษัทเอกชน ภาคเอกชนต่างๆเพื่อให้เกิดการฝึกงาน การจ้างงาน มีที่พัก ค่าจ้าง ซึ่งผู้ที่ได้รับการพักโทษที่ถูกจ้างงานทั้งหมดจะต้องติดกำไล EM
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ทางกรมราชทัณฑ์จะคัดเลือกผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษ 1.6หมื่นคนออกไปทำงาน โดยได้รับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 331 บาท จะทำให้มีเงินหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจ 1,931 ล้านบาท และเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ต้องของราชทัณฑ์ได้จำนวน 21,000 บาท/คน/ปี หรือจำนวน 336 ล้านบาท/ปี และยังประหยัดงบในการสร้างเรือนจำด้วยโดยการมีนิคมฯ 1แห่งจะลดการสร้างเรือนจำได้ 5 แห่ง หรือลดงบ 7,500 ล้านบาท
“ที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมได้เสนอแก้ไขกฎหมายไปแล้ว 10 ฉบับ แต่มีความคืบหน้า 7 ฉบับที่คาดว่าจะสำเร็จทัน และมีผลประกาศใช้ในรัฐบาลชุดนี้ที่เหลือเวลาทำงานอีก 1 ปี 6 เดือน คือ ประมวลกฎ หมายยาเสพติด พ.ร.บ.ยาเสพติด 2522 กฎหมายปลดล็อกพืชกระท่อม ร่างพ.ร.บ.ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ร่างพ.ร.บ.ซ้อมทรมาน ร่างพ.ร.บ.อาญาเด็ก และร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานฯ ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการดำเนินการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับในงบปี 65 ตนได้หารือกับผู้บริหารของหน่วยงานในกระทรวงฯแล้ว โดยเฉพาะการทำคดีรถหรู 1,428 คัน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตนเห็นว่าหากเคลียร์ปัญหาตรงนี้ได้ทั้งหมดรัฐจะได้ภาษีประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากรถแต่ละคันจะเสียภาษี 380 เปอร์เซ็นต์ จึงหารือกับปลัดกระทรวงยุติธรรมให้จ้างลูกจ้างหรือเอกชนจำนวน 100 คนให้มาช่วยพนักงานสอบสวนของดีเอสไอซึ่งมีเพียง 4 คน
ส่วนการทำคดีอื่นๆ เช่น คดียาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด การพนันออนไลน์ เหล้าบุหรี่หนีภาษีที่เข้ามาจำหน่าย คดีทรัพยากรธรรมชาติ ต่อไปจะใช้กฎหมายพ.ร.บ.คดีพิเศษ โดยจัดตั้งเอกชนให้เข้ามาดำเนินการ รวมทั้งการไกล่เกลี่ย ซึ่งกรมบังคับคดีมีคดีที่ต้องเข้าสู่กระบวนไกล่เกลี่ย 303,090 คดี มูลหนี้ 44,865 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคดีกยศ.ดังนั้นในปี 65 จะต้องทำให้เสร็จเพราะเจ้าหนี้พร้อมให้ไกล่เกลี่ยต่อไปลูกหนี้ก็ไม่ต้องหนีแล้ว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี