จับสาวใหญ่ฮังกาเรียนโอเวอร์สเตย์ ซุกเกาะสมุยนาน 10 ปี

จับสาวใหญ่ฮังกาเรียนโอเวอร์สเตย์ ซุกเกาะสมุยนาน 10 ปี

วันพฤหัสบดี ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564, 14.48 น.

“บิ๊กอู๊ด” นำแถลง “ตม.สุราษฎร์ธานี” จับสาวใหญ่ฮังกาเรียนโอเวอร์สเตย์ ซุกเกาะสมุยนาน 10 ปี สารภาพสามีเสียชีวิตไปก่อน ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด

30 กันยายน 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตติ์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าวจับกุมคดีคนต่างชาติกระทำความผิด


สืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับการประสานข้อมูลจากพลเมืองดี ว่ามีคนต่างชาติสัญชาติฮังกาเรียนพำนักในราชอาณาจักรในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดจำนวนหลายปี

เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ทราบข้อมูลบุคคลของคนต่างชาติดังกล่าวเบื้องต้น จึงได้นำข้อมูลทำการตรวจค้นจากระบบการสืบค้นฟังชั่นอยู่เกินกำหนดและฟังชั่นการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรของระบบสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือระบบไบโอเมตริก พบว่า บุคคลต่างชาติรายดังกล่าวชื่อนางแองเจลล่า สัญชาติฮังกาเรียน มีข้อมูลอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดจริง จึงได้ออกทำการสืบสวนติดตามตัวจนทราบว่าได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

ต่อมาจึงได้เข้าทำการตรวจสอบจนพบตัวนางแองเจลล่า และได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอทำการตรวจสอบเอกสารประจำตัวและการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ต่อมานางแองเจลล่า ได้นำหนังสือเดินทางมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบปรากฏว่านางแองเจลล่า ถือหนังสือเดินทางประเทศฮังการี หมายเลข BB27xxxx และเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.2552 ด้วยประเภทนักท่องเที่ยว ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 28 ม.ค.2553 และได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรถึงวันที่ 27 ก.พ.2553 จากนั้นไม่เคยมาขออยู่ต่อในราชอาณาจักรแต่อย่างใดและไม่เดินทางออกนอกราชอาณาจักรตามที่กฎหมายกำหนด หลบหลีกการจับกุมมานาน 10 ปี โดยกบดานตามบ้านเช่าในพื้นที่เกาะสมุย

ในที่สุดจนมุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้จับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาว่าเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 4,165 วัน พร้อมแจ้งสิทธิในชั้นจับกุมให้ทราบและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีต่อไป

จากการสอบถามนางแองเจลล่ามาพำนักอยู่ในราชอาณาจักรกับสามีชาวฮังกาเรียน แต่สามีได้เสียชีวิตไปก่อน และไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด เมื่อทราบว่าตัวเองอยู่เกินกำหนดอนุญาตจึงพยายามหลบหลีกไปพักตามบ้านเช่าในพื้นที่เกาะสมุย   

ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.ระดมกวาดล้างคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ขบวนการขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ ออกพื้นที่จังหวัดที่มีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค  โควิด-19 และรวมถึงการที่คนต่างชาติเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ทั้งนี้ สตม. ขอเรียนว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top