วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
บุกรวบ'หนุ่มแสบ' ล้วงคองูเห่าอ้างสนิท'ผบช.ก.'ตุ๋นเหยื่อสูญเกือบ 2 ล้าน

บุกรวบ'หนุ่มแสบ' ล้วงคองูเห่าอ้างสนิท'ผบช.ก.'ตุ๋นเหยื่อสูญเกือบ 2 ล้าน

วันเสาร์ ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 14.22 น.
Tag : กองปราบ จับพันโท ต้มตุ๋น ผู้การกองปราบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช
  •  

9 ตุลาคม 2564 ว่าที่ พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.กก.1 บก.ป. ร.ต.อ.ธีรพงษ์ ตาบัวตูม ร.ต.ท.พรหมธาดา ฮามคำไพ รรท.รอง สว.กก.1 บก.ป.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. นำกำลังร่วมกันจับกุม นายพลกร (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 500/2564 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุลคลใดบุคคลหนึ่ง และไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานหรือใชัยศตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือสิ่งที่หมายถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ" โดยจับกุมได้ที่อพาร์ทเมนท์ย่านซอยกอไผ่ ถนนเทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

คดีนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 นายพลกร ได้อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มกับผู้ต้องหา โดย ผู้ต้องหาอ้างกับผู้เสียหายว่าตนเองได้ไปเซ้งร้านอาหารแห่งหนึ่งมา และต้องการให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีผลตอบแทนที่ดี ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อตกลงร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา


ต่อมาเมื่อผู้เสียหายสอบถามถึงผลตอบแทนในการลงทุน ผู้ต้องหากลับขอผัดผ่อนการจ่ายผลตอบเเทนเรื่อยมา โดยมักจะใช้กลอุบายหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อต่างๆ นานา เช่น หลอกว่าตนเองรู้จักสนิทคุ้นเคยกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางคนปัจจุบัน ทำให้ตนเองมีความน่าเชื่อถือ และทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นตำรวจกองปราบจริง โดยผู้ต้องหาจะส่งหลักฐานการพูดคุยระหว่างไลน์ที่ใช้ชื่อว่า “ผู้การกองปราบ”, “พี่ก้อง”, “THE KONG” กับไลน์ของผู้ต้องหาให้ทางผู้เสียหายดูเพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าผู้ต้องหาพูดคุยกับ พล.ต.ท.จิรภพ จริง โดยหลักฐานการพูดคุยดังกล่าว เป็นหลักฐานที่ผู้ต้องหาสร้างขึ้นมาเองทั้งหมด โดยมีทั้งการใช้ชื่อและภาพของพล.ต.ท.จิรภพ มาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ไลน์ และนอกจากนี้ผู้ต้องหายังมีการแอบอ้างอีกว่าตนเองเป็นหลานของนายทหารระดับสูง ซึ่งตนเองกำลังจะได้รับมรดกจากนายทหารคนดังกล่าว ยืนยันว่าตนเองสามารถนำเงินผลตอบเเทนมาคืนให้กับผู้เสียหายได้อย่างแน่นอน

โดยในระหว่างที่ผู้ต้องหาขอผัดผ่อนเงินผลตอบเเทนของผู้เสียหายเรื่อยมานั้น ผู้ต้องหายังคงใช้กลอุบายอื่นๆ หลอกลวงผู้เสียหายอีก ไม่ว่าจะเป็นการหลอกผู้เสียหายให้เชื่อว่าตนเองมีเคราะห์กรรมร่วมกับผู้ต้องหา และพล.ต.ท.จิรภพ หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินมาเพื่อทำพิธีแก้กรรมสะเดาะเคราะห์, หลอกลวง ผู้เสียหายให้เชื่อว่าผู้ต้องหากำลังประสบปัญหาทางด้านการเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้หย่ากับภรรยาและได้นำทรัพย์สินไปจำนำกับบุคคลอื่น จึงจำเป็นต้องขอยืมเงินผู้เสียหายเพื่อนำไปไถ่ถอนทรัพย์สินดังกล่าวออกมา และภายหลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินให้กับทางผู้ต้องหาไปแล้วนั้น ผู้ต้องหากลับขาดการติดต่อกับผู้เสียหาย เมื่อทางผู้เสียหายพยายามติดต่อกลับไปหาผู้ต้องหา ก็ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมาย จากกลอุบายที่ผู้ต้องหาใช้หลอกลวงผู้เสียหาย เป็นเหตุทำให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาเป็นจำนวนทั้งสิ้น 162 ครั้ง เป็นเงินจำนวนกว่า 1.6 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวต่อมาวันที่ 8 ตุลาคม 2564  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณอพาร์ทเมนท์ในซอยกอไผ่ ถนนเทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมพร้อมตรวจยึดของกลางรวม 11 รายกลาง ดังนี้

1. สิ่งเทียมอาวุธปืน (ปืนอัดลม) จำนวน 2 กระบอก
2. สิ่งเทียมอาวุธปืน (ปืนไฟแช็ก) จำนวน 1 กระบอก
3. เครื่องหมายขีดความสามารถหลักสูตรรบพิเศษแขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก และจู่โจมนาวิกโยธิน
4. แหวนสัญลักษณ์ตราแผ่นดิน
5. แหวนสัญลักษณ์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
6. เสื้อกันกระสุน
7. เสื้อกั๊กสีดำมีตรากองบังคับการปราบปราม
8. ภาพถ่ายเคียงธงโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
9. ซองปืนคาดเอวแบบพกซ่อน
10. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
11. เอกสารให้มีและใช้อาวุธปืน นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาพบว่า ผู้ต้องหายังคงมีหมายจับที่ยังต้องการตัวอีก 2 หมายจับ ดังนี้ 1. หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 635/2563 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และ 2. หมายจับศาลแขวงดุสิต ที่  40/2564ลงวันที่ 10 มีนาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”

-001

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ล้างบางแก๊ง‘บอล เขาวิเศษ’พ่อค้ายาตัวเอ้ พัวพันยิงถล่มบ้าน 61 คดี สั่งการจาก‘ท่าขี้เหล็ก’ ล้างบางแก๊ง‘บอล เขาวิเศษ’พ่อค้ายาตัวเอ้ พัวพันยิงถล่มบ้าน 61 คดี สั่งการจาก‘ท่าขี้เหล็ก’
  • รวบนักเลงแก๊ง\'13 ห้างบางลำพู\' ก่อเหตุร่วมกับพวกแทงคู่อริปางตาย รวบนักเลงแก๊ง'13 ห้างบางลำพู' ก่อเหตุร่วมกับพวกแทงคู่อริปางตาย
  • จับสาวโมเดลลิ่งค้ามนุษย์ หลอกหญิงไทยไปทำงานเมียนมา สุดท้ายพาไปขายซ่อง จับสาวโมเดลลิ่งค้ามนุษย์ หลอกหญิงไทยไปทำงานเมียนมา สุดท้ายพาไปขายซ่อง
  • กองปราบส่งสำนวนอัยการคดีพิเศษ คดีทนายตั้ม แจ้งข้อหาเพิ่ม 2 ราย ปลอมเอกสารรถเบนซ์ กองปราบส่งสำนวนอัยการคดีพิเศษ คดีทนายตั้ม แจ้งข้อหาเพิ่ม 2 ราย ปลอมเอกสารรถเบนซ์
  • ทลายเหมืองบิทคอยน์! ลอบใช้ไฟฟ้าเสียหายกว่า 110 ล้าน ยึดเครื่องขุดเกือบ 1,000 เครื่อง ทลายเหมืองบิทคอยน์! ลอบใช้ไฟฟ้าเสียหายกว่า 110 ล้าน ยึดเครื่องขุดเกือบ 1,000 เครื่อง
  • หนุ่มใหญ่หนีคดีฆ่า 10 ปี ดอดมาเยี่ยมเมียปีใหม่ โดนตร.บุกรวบคาเต็นท์หลังบ้าน หนุ่มใหญ่หนีคดีฆ่า 10 ปี ดอดมาเยี่ยมเมียปีใหม่ โดนตร.บุกรวบคาเต็นท์หลังบ้าน
  •  

Breaking News

‘วิสุทธิ์’ย้อนเกล็ด‘ภท’ สส.โหวตสวนเรียก‘งูเห่า’ ตอนย้ายคอกเข้าพรรคบอก‘อุดมการณ์’

เปิดสาเหตุ'แอร์อินเดีย'โหม่งโลก 'สวิตช์ควบคุมน้ำมัน'ถูกสับลง เสียงจากห้องนักบินเพิ่มเงื่อนงำ

'อ.ทองย้อย' ชี้ 'เสพกามคาจีวร' คือกามวิตถาร! ย้ำขาดความเป็นพระทันที เมื่อแตะต้องเมถุน

‘ไผ่ ลิกค์’คาดคุยโควตารองประธานสภา วงกินข้าวพรรคร่วมรัฐบาล 22 ก.ค.นี้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved