เสียงจากปชช.ถูก‘น้ำท่วม’ ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล และสิ่งที่ควรทำเร่งด่วน!
10 ตุลาคม 2564 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หัวข้อ “คนไทยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 2564” จำนวนทั้งสิ้น 569 ครัวเรือน สำรวจระหว่างวันที่ 4-7 ตุลาคม 2564 เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณีสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหาย และมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ในขณะที่อีกหลายจังหวัดยังต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนคิดว่า “ปัญหาและอุปสรรค” ของน้ำท่วมครั้งนี้ คือเรื่องใด
อันดับ 1 เป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้ 70.49%
อันดับ 2 ที่ผ่านมาไม่มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง 69.61%
อันดับ 3 ไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอุทกภัย 65.90%
อันดับ 4 การทำงานแยกส่วน ไม่ประสานร่วมมือกัน 59.01%
อันดับ 5 การให้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ชัดเจน ไม่มีระบบการแจ้งเตือนที่ดี 55.83%
2. ประชาชนคิดว่าสิ่งที่ควร “ตระหนักและให้ความสำคัญ” กับปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้ มีอะไรบ้าง
อันดับ 1 ควรมีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ 77.03%
อันดับ 2 รัฐบาลให้ความสำคัญและแก้ไขอย่างจริงจัง 71.91%
อันดับ 3 มีวิธีการป้องกันน้ำท่วมในระยะยาว 70.67%
อันดับ 4 เร่งฟื้นฟูธรรมชาติ เพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำ 70.14%
อันดับ 5 ตรวจสอบความแข็งแรงของเขื่อน ฝาย คันกั้นน้ำ 67.67%
3. ประชาชนคิดว่าสถานการณ์น้ำท่วมมีผลกระทบอย่างไรบ้าง
อันดับ 1 กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน 86.62%
อันดับ 2 พืชผลทางการเกษตรเสียหาย 83.10%
อันดับ 3 บ้านเรือนเสียหาย ต้องซ่อมแซมบ้านเรือน 78.35%
อันดับ 4 เดินทางไม่ได้ เส้นทางถูกตัดขาด ชำรุด 72.89%
อันดับ 5 ประชาชนวิตกกังวล เสียสุขภาพจิต 71.83%
4. สิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการโดยเร่งด่วน คือ
อันดับ 1 ช่วยเหลือประชาชนที่น้ำท่วม เช่น เรือ ห้องน้ำ ที่พักชั่วคราว ถุงยังชีพ 87.35%
อันดับ 2 ให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน แจ้งเตือนรวดเร็ว 83.48%
อันดับ 3 เร่งสำรวจความเสียหายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม 74.52%
อันดับ 4 ป้องกันพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เตรียมพร้อมรับมือ 74.17%
อันดับ 5 ร่วมมือกับหลาย ๆ ฝ่าย หาแนวทางแก้ไขร่วมกัน 66.26%
5. ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาลเพียงใด
ไม่น่าจะป้องกันได้ 44.17%
ป้องกันไม่ได้ 28.62%
น่าจะป้องกันได้ 23.68%
ป้องกันน้ำท่วมได้แน่นอน 3.53%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า การสำรวจครั้งนี้กลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม มองว่าน้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติและที่ผ่านมายังไม่มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง บริหารจัดการน้ำไม่มีประสิทธิภาพ ประชาชนจึงได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย รัฐบาลจึงควรแก้ปัญหาในระยะยาว นำเทคโนโลยีสารสนเทศด้านน้ำและข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาใช้เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและคนไทยอยู่ร่วมกับ “น้ำ” ได้โดยไม่ลำบาก
ด้าน ผศ.ดร.พุทธิธร แสงรุ่งเรือง อาจารย์ประจำหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม และคณะจัดตั้งหลักสูตรสาธารณสุขเพื่อการท่องเที่ยวและธุรกิจสุขภาพ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การเกษตร สังคม และสิ่งแวดล้อม สาเหตุของน้ำท่วมเกิดได้จากภาวะโลกร้อน ส่งผลต่อปริมาตรน้ำทะเลที่มากขึ้น การขัดขวางช่องทางการระบายน้ำและการซึมของน้ำลงสู่ผิวดิน เช่น การสร้างสิ่งปลูกสร้าง การตกตะกอนจากพื้นที่ที่ไม่มีพืชปกคลุม นอกจากนี้ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตศูนย์สูตร มีผลกระทบจากลมมรสุมและพายุ จึงทำให้น้ำท่วมทวีความรุนแรง
“การแก้ปัญหาคือการวางแผนในระยะยาว การป้องกัน ความพร้อมในการรับมือ ความแม่นยำของข้อมูลเพื่อนำมาใช้ตัดสินใจ รวมถึงการถอดบทเรียนจากต่างประเทศมาเป็น Best Practice การร่วมมือกันในชุมชนและการประสานหน่วยงานในการแก้ปัญหา จะทำให้ปัญหาน้ำท่วมได้รับการบรรเทา ซึ่งใช่ว่าน้ำท่วมจะมีแต่ผลเสีย ผลดีคือช่วยเติมระดับน้ำใต้ดิน ทำให้ดินกลับมาอุดมสมบูรณ์ รวมถึงการขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำ ดังนั้นการมองเชิงบวกและร่วมกันแก้ไขปัญหา จะทำให้เราฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ในช่วงเวลานี้และในอนาคต” ผศ.ดร.พุทธิธร กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี