"คุณหญิงกัลยา"ดัน สกศ.เป็นเข็มทิศพาการศึกษาไทยสู่โลกการเปลี่ยนแปลง ด้าน"อรรถพล"พร้อมลุยงาน สกศ.เร่งขับเคลื่อนคุยเสาหลักเศรษฐกิจผลิตคนรองรับปี ค.ศ.2025
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบนโยบายเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โดยมี นายอรรถพล สังขวาสี เลขาธิการ สกศ.และผู้บริหารระดับสูงของ สกศ.เข้าร่วม ว่า ตนอยากให้ สกศ.เป็นเข็มทิศ เป็นทิศทางของการศึกษาไทยที่ทุกคนสามารถพึ่งพา และคาดหวังได้ ฉะนั้น เมื่อโลกเปลี่ยนไป การศึกษาก็เปลี่ยนตามไปด้วย ซึ่ง สกศ.มีภารกิจที่หนักคือ การขับเคลื่อน ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาในเร็วๆ นี้ และการเปลี่ยนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2551 ที่เน้นสาระความรู้ มาเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ให้คนเรียนแล้วสามารถไปประกอบอาชีพได้ ที่สำคัญคือ สกศ.ต้องเชื่อมโยงทุกภาคส่วนของสังคมให้การศึกษาในเรื่อง ศาสนา วัฒนธรรม และการกีฬา ให้เป็นรูปธรรม มองว่าเด็กมีความรู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องนำเอาวัฒนธรรมมาผนวกเข้ากับการศึกษา เมื่อผู้เรียนได้เรียนแล้ว ต้องสามารถแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันได้ มีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล มีความเมตตากรุณา จึงฝาก สกศ.นำเรื่องโค้ดดิ้ง และการเรียนวิทยาศาสตร์ ผสานศาสตร์และศิลป์ โดยเปลี่ยจาก STEM เป็น STEAM ที่ตนเองได้วางรากฐานไว้มาพลักดันพัฒนานักเรียนต่อไป เพื่อให้เด็กมีภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคดิสรัปชั่นได้
"สกศ.วางแผนที่จะยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ต่างประเทศรู้ว่าการศึกษาของไทยต่อจากนี้ไปจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร โดยสกศ.จะเข้าไปให้ข้อมูลด้านการศึกษาที่ถูกต้องกับสถาบันเพื่อการพัฒนาด้านการบริหารระหว่างประเทศ (IMD : Institute for Management Development) เพื่อให้ต่างชาติรู้ว่าคุณภาพการศึกษาของไทยอยู่ตรงไหน พร้อมกับผลัดดันให้ได้รับคะแนนการสอบ PISA ดีขึ้น เพื่อให้ต่างชาติรู้ว่าทิศทางของการศึกษาในประเทศจะเป็นอย่างไร และแก้ไขปัญหาการใช้ดิจิทัลในการเรียนการสอน เช่น หากพบประเด็นปัญหาอะไรให้เร่วแก้ไข เพื่อทำให้เราสามารถใช้ดิจิทัลในการเรียนการสอนได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ" คุณหญิงกัลยา กล่าว
ด้าน นายอรรถพล กล่าวว่า หนึ่งในพันธกิจ ของ สกศ.คือการบูรณาการให้นักเรียน นักศึกษา มีความรู้ในเรื่อง ศาสนา วัฒนธรรม กีฬา และศิลปะ โดยทุกคนต้องมีความรู้เรื่องเหล่านี้เหมือนกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างรู้เหมือนที่ผ่านมา ดังนั้น สกศ.จะหลอมความรู้เรื่องวัฒนธรรมโดยสอนให้ผู้เรียนรู้รากเหง้าของตน มีศาสนาที่ตนนับถือ มีคุณธรรมจริยธรรม มีศิลปะคือ มีความคิดสร้างสรรค์ที่จะสามารถเลือกเส้นทางของตนในอนาคตได้ และด้านกีฬาคือ ผู้เรียนจะต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบรูณ์ ถ้าเราสามารถหลอมสิ่งเหล่านี้ให้ผู้เรียนได้ เราต้องมีเป้าหมายและทิศทางที่จะต้องเดินไปในอนาคต ซึ่งทาง World Economic Forum จัดทำรายงาน The Future of Jobs ว่าด้วยเรื่องแนวโน้มและทิศทางของอาชีพในอนาคต ตลอดจนทักษะการทำงานที่จำเป็นภายในอนาคตอันใกล้ ค.ศ.2025 ซึ่งจะมี 10 อาชีพที่เกิดใหม่ โดยคุณหญิงกัลยา มีแนวคิดว่า สกศ.ควรสัญจรไปหาเสาหลักของเศรษฐกิจไทย เช่น สมาคมธนาคารไทย สมาคมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ หอการค้าในและต่างประเทศ โดยหารือกับผู้ประกอบวิชาชีพว่าในปี ค.ศ.2025 ผู้ประกอบการต้องการคนแบบไหน เพื่อให้ทุกหน่วยงานเข้ามาร่วมวางแผนการศึกษาของประเทศได้ จากนั้น สกศ.จะรวบรวมข้อมูลที่ได้มาเพื่อดำเนินการขับเคลื่อน ในการสร้างคนให้ตอบรับกับความต้องการของประเทศในปี ค.ศ.2025
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี