วิจัยใหม่3ประเทศชี้ตรงกัน 'ไฟเซอร์'ภูมิลดหลัง6เดือน แต่กัน'ป่วยหนัก-ตาย'ได้ตลอด

วิจัยใหม่3ประเทศชี้ตรงกัน 'ไฟเซอร์'ภูมิลดหลัง6เดือน แต่กัน'ป่วยหนัก-ตาย'ได้ตลอด

วันศุกร์ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 08.12 น.

15 ตุลาคม 2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ “โควิด” ผ่านทางเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้...

15 ตุลาคม 2564


ทะลุ 240 ล้านไปแล้ว

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 426,410 คน ตายเพิ่ม 7,000 คน รวมแล้วติดไปรวม 240,338,368 คน เสียชีวิตรวม 4,896,286 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย ตุรกี และยูเครน

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.34 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 89.01

...สำหรับสถานการณ์ไทยเรา

เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 11,276 คน สูงเป็นอันดับ 11 ของโลก

แต่หากรวม ATK อีก 3,209 คน ก็ยังคงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย
และยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

...อัพเดตงานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีน Pfizer/Biontech

ล่าสุดมีงานวิจัยเพิ่มเติมอีก 3 ชิ้น จากอิสราเอล กาตาร์ และอเมริกา ที่ทำให้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีน

งานศึกษาที่อิสราเอลนั้นทำในบุคลากรทางการแพทย์ 3,808 คน พบว่าหลังฉีดวัคซีนไปครบสองเข็ม ระดับแอนติบอดี้ IgG จะสูงสุดในช่วง 4-30 วันหลังฉีดเข็มสอง และค่อยๆ ลดลงในช่วง 6 เดือนถัดมา ทั้งนี้ระดับ Neutralizing antibody ก็ลดลงในลักษณะเดียวกัน โดยการลดลงของภูมิคุ้มกันนั้นจะลดมากในกลุ่มคนที่สูงอายุ, เพศชาย, มีโรคประจำตัวตั้งแต่ 2 โรคขึ้นไป, หรือมีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง/โรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง

ส่วนการวิจัยที่กาตาร์นั้น ศึกษาในกลุ่มตัวอย่าง 947,035 คน พบว่าระดับประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อนั้นสูง 77% ภายในเดือนแรกหลังฉีดวัคซีนครบ แต่จะลดลงเหลือ 20% หากติดตามไปถึงเดือนที่ 5-7 อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล และป้องกันการเสียชีวิตนั้น ยังคงสูงถึง 96% และไม่ได้ลดลงตลอดช่วง 6 เดือนที่ติดตามผล

ในขณะที่การวิจัยที่อเมริกา ศึกษาในกลุ่มประชากร 3,436,957 คน ติดตาม 6 เดือน พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสูงถึง 88% ในช่วงเดือนแรก และลดลงเหลือ 47% ในเดือนที่ 5 แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลยังคงสูง 87% ในเดือนแรก และ 88% ในเดือนที่ 5 โดยประสิทธิภาพของวัคซีนนั้นได้ผลทั้งในสายพันธุ์เดลต้าและสายพันธุ์อื่น

ความรู้จากงานวิจัยข้างต้นทั้งหมด ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของภูมิคุ้มกันจากวัคซีนมากขึ้นว่า การจะป้องกันการติดเชื้อนั้นคงต้องอาศัยระดับแอนติบอดี้ที่สูงมากเพียงพอ จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทั่วโลกกำลังวางแผนที่จะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

อย่างไรก็ตาม การฉีดเข็มกระตุ้นที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าเพื่อหวังจะกระตุ้นภูมิให้สูงขึ้นนั้น นอกจากหวังผลที่จะป้องกันการติดเชื้อแล้ว ยังหวังผลที่จะลดผลกระทบจากการติดเชื้อที่แม้จะอาการน้อย แต่อาจเกิดภาวะคงค้างที่เรารู้จักในชื่อว่า Long COVID อีกด้วย

ในขณะที่การป้องกันการป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาล และป้องกันการเสียชีวิตนั้น ประสิทธิภาพของวัคซีนยังคงเดิมอยู่นานตลอดการติดตามผล น่าจะมาจากกลไกตอบสนองของร่างกาย ที่มีความจำฝังอยู่ในระบบภูมิคุ้มกัน ผ่าน memory B cells ที่จะสร้างแอนติบอดี้เพิ่มขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อ และผ่านระบบภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ในการต่อสู้กับเชื้อโรคภายหลังการติดเชื้อได้ จึงทำให้ลดป่วยรุนแรง และลดการเสียชีวิตได้ แม้จะได้รับวัคซีนมานานแล้วก็ตาม

สำหรับประชาชนไทยเรา ขอให้ป้องกันตัวอย่างเป็นกิจวัตรนะครับ เพราะยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง และจะมีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ หลังมีการผ่อนคลายการใช้ชีวิต และกำลังจะเปิดเมือง เปิดท่องเที่ยว และเปิดประเทศ

ด้วยรักและห่วงใย

อ้างอิง

Levin EG et al. Waning immune humoral response to BNT162b2 Covid-19 vaccine over 6 months. N Engl J Med 2021 Oct 6; [e-pub].
Chemaitelly H et al. Waning of BNT162b2 vaccine protection against SARS-CoV-2 infection in Qatar. N Engl J Med 2021 Oct 6; [e-pub].
Tartof SY et al. Effectiveness of mRNA BNT162b2 COVID-19 vaccine up to 6 months in a large integrated health system in the USA: A retrospective cohort study. Lancet 2021 Oct 4; [e-pub].
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top