ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ภาค 6 ขยายผลจับเครือข่ายยาเสพติดคาร์แคร์ ที่อุตรดิตถ์ เจอยาบ้า 24,000 เม็ด เก็บซุกซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าภายในบ้าน พร้อมกระสุนอาวุธสงคราม
วันที่ 16 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยโดย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ , พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.สส.ภ.6 , พ.ต.อ.สารนัย คงเมือง รอง ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.แดนชัย งามทรง ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 , พ.ต.อ.พงษ์อาจ ล้ำตระกูล ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.6 , พ.ต.ท.โยธิน ยากองโค ผกก.สภ.ตรอนและศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 6 โดยชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภาค 6 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด สภ.ตรอน นำโดย พ.ต.ท.เจนรบ เนติรัตนไพบูลย์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 6 กับพวกได้วางแผนจับกุมตัวโดยล่อซื้อยาบ้าจาก นายอนุสรณ์ แสงซื่อ หรือ เบียร์ อายุ 31 ปีที่อยู่บ้านเลขที่ 9/36 ถนน ฤดีเปรม ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งมีอาชีพเป็นพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลแห่งหนึ่ง และประกอบธุรกิจส่วนตัวเปิดร้านคาร์แคร์ บังหน้ามีพฤติการณ์เป็นเอเยนต์จำหน่ายยาบ้า
ต่อมานายเบียร์ได้ขับรถหลบหนี โดยใช้เส้นทาง ถนนหมายเลข 11 ในการหลบหนี มุ่งหน้าไปทาง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานด่านตรวจยาเสพติดวัดโบสถ์ (ท่างาม) ให้สกัดและตามไปตรวจค้นและจับกุมจึงได้พบของกลาง (ยาบ้า) ทั้งหมด 4,000 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบร้านบัตเตอร์ คาร์แคร์ ของนายอนุสรณ์ พบลูกน้องในคาร์แคร์อีก 2 คน ชื่อ นายศุภชัย แสงซื่อ หรือ อ๊อฟ อายุ 32 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 121/2 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ และนายธันวา แสงซื่อ หรือ เกมส์ อายุ 21 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 9/36 ถนนฤดีเปรม ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเป็นลูกน้องคอยรับส่งยาเสพติดให้กับนายอนุสรณ์ฯ และยังพบยาบ้า อีกจำนวนหนึ่งที่ซุกซ่อนไว้บริเวณหลังห้องน้ำของคาร์แคร์ซึ่งเอาซุกซ่อนไว้หลังห้องน้ำ โดยเอาสังกะสีและท่อนไม้ปกปิดไว้
นายอนุสรณ์ ยอมรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนและได้พบรถจักรยานยนต์ภายในร้านเป็นจำนวนมากซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่ารถจักรยานยนต์ดังกล่าวตนได้สะสมไว้และมี กลุ่มเพื่อนเอามาจำนำไว้บางส่วน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนมากและตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ทั้งหมด 12 คัน และรถยนต์ส่วนบุคคลยี่ห้อมิตซูบิชิปาเจโร่สปอร์ตอีก 1 คัน จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อดำเนินคดี
ด้าน พ.ต.ท.เจนรบ เนติรัตนไพบูลย์ สว.กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 กล่าวว่า จากการขยายผลการจับกุมกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดจากแหล่งจำหน่ายของ นายอนุสรณ์ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า บ้านเลขที่ 43/2 ม.2 ต.ข่อยสูง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ เป็นสถานที่ใช้เก็บซุกซ่อนยาเสพติด เพื่อรอออกจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภาค 6 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ได้วางแผนโดยประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตรอน เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ดังกล่าวตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 12 มัด หรือ ยาบ้า 24,000 เม็ด เก็บซุกซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าภายในบ้าน
นอกจากนี้ ยังพบซองบรรจุกระสุนปืน อาวุธสงคราม M 16 จำนวน 5 อัน พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.จำนวน 99 นัด จากการสอบสวนนาย ธวัชชัย ใจต่อตั้ง หรือ วัช เจ้าของบ้านให้การว่า มีนายทัก ซึ่งเป็นเอเยนต์ยาบ้ารายใหญ่ได้นำมาให้ทำหน้าที่เก็บซ่อนไว้ โดยให้เงินค่าจ้างในการเก็บยาบ้าไว้ และ กระสุนปืนที่นำมาเก็บซ่อนไว้นั้นนายธวัชชัย ฯ แจ้งว่าได้รับมาจากลูกพี่ลูกน้องตนที่เป็นอดีตทหารมาเก็บซ่อนไว้ภายในบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า มีความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดนผิดกฎหมายและมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย แล้วควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตรอน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี