วันที่ 19 ตุลาคม 2564 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ทั่วประเทศ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในแนวทางการเตรียมการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ว่า สพฐ.จะไม่มีการเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 2 โดยจะเปิดภาคเรียนพร้อมกันทุกโรงเรียนในวันที่ 1 พ.ย. 2564 นี้ ส่วนวิธีการเปิด วิธีที่ 1 จะเปิดแบบออนไซต์ แต่ถ้าเปิดแบบออนไซต์ไม่ได้ ก็ให้เลือกเปิดแบบ 4 ออน์ คือ ออนไลน์ ออนแอร์ ออนดีมาน และ ออนแฮน เหมือนที่เคยปฏิบัติมา แต่เป้าหมายของการดำเนินการในเชิงนโยบาย ขณะนี้ รัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการเปิดประเทศ ในเชิงนโยบายจึงต้องการให้เปิดเรียนแบบออนไซต์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ และการที่โรงเรียนจะเปิดออนไซต์ได้ในวันที่ 1 พ.ย. ได้ทั้งหมดกี่โรง อยู่ในเขตพื้นที่ไหนกี่โรง ทางโรงเรียนจะต้องผ่านการประเมินตนเอง 44 ข้อ ว่ามีความพร้อมที่จะเปิดเรียนได้หรือไม่ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่าโรงเรียนที่ไม่ผ่าน เพราะ ผอ.โรงเรียนไม่ให้ความสำคัญกับการประเมินอย่างแท้จริง ดังนั้น จึงขอให้ผอ.เขตพื้นที่ฯคอยกำกับดูแลให้โรงเรียนปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด และต้องกำชับให้ ผอ.โรงเรียนเป็นคนกำกับการประเมินโรงเรียนด้วยตนเอง
ส่วนการฉีดวัคซีนครู ขณะนี้ดำเนินการฉีดไปแล้วเกือบ 90% แต่ยังพบว่ามีบางโรงเรียนครูฉีดวัคซีนไม่ถึง 30% ดังนั้น ขอให้เขตพื้นที่ฯจำแนกการฉีดเป็นรายโรงเรียน เพื่อให้ทราบว่าโรงเรียนมีการฉีดวัคซีนไปและฉีดแล้วกี่คน หรือใครยังไม่ได้ฉีด และที่ไม่ฉีดด้วยสาเหตุอะไร เพื่อเป็นข้อมูลเชิงตัดสินใจและแก้ปัญหาได้ ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนอายุ 12-18 ปี ซึ่งขณะนี้มีนักเรียนประสงค์ฉีดวัคซีนแล้วรวมกว่า 80% แต่ก็มีหลายโรงเรียนที่นักเรียนประสงค์จะฉีดยังมีไม่ถึง 50% จึงเป็นหน้าที่ของ เขตพื้นที่ฯ และโรงเรียนต้องประชาสัมพันธ์ส่งเสริมสนับสนุนทำความเข้าใจ เพราะก่อนนี้พบมีนักเรียนไม่สมัครใจฉีดวัคซีนจำนวนมาก แต่ระยะหลังนักเรียนวอคอินเข้ามาแสดงความประสงค์จะฉีดวัคซีนเพิ่มหลายแสนคนแล้ว จึงขอให้เขตพื้นที่ฯและโรงเรียนจำแนกเป็นรายโรงเรียนว่าตรงไหนที่ยังฉีดไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด สาเหตุคืออะไร แล้วจะมีวิธีการรณณงค์ส่งเสริมอย่างไร สำหรับส่วนการฉีดวัคซีนของผู้ปกครอง โดยเฉพาะในโรงเรียนอนุบาล-ป.6 ที่เด็กอายุยังไม่ถึง 12 ปี ขอให้เขตพื้นที่ และโรงเรียนรณรงค์ให้ผู้ปกครองฉีดวัคซีนด้วย เพราะเด็กในวัยนี้จะอยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่ผู้ปกครองและครู ดังนั้น หากพ่อแม่ผู้ปกครอง ครูได้ฉีดวัคซีนก็จะสามารถเปิดเรียนได้
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ปัจจัยที่จะส่งผลต่อการเปิดภาคเรียนที่ 2 ได้หรือไม่ได้ คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยสพฐ.จะยึดตำบล อำเภอ เป็นฐาน เพราะฉะนั้น เขตพื้นที่แต่ละเขต จะต้องกำหนดพื้นที่สีขาว สีส้ม สีแดง สีแดงเข้ม เพื่อกำหนดเป็นเป้าหมายในการเปิดภาคเรียนที่สอง เมื่อโรงเรียนประเมินตนเองผ่านเกณฑ์แล้วก็จะต้องเสนอขออนุญาตศูนย์ควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งเหลือเวลาเตรียมการเพียง 2 สัปดาห์ ดังนั้น เขตพื้นที่ฯจะต้องทำไทม์ไลน์ประเมินตนเองและประเมินรายละเอียดต่าง ๆเพื่อจะนำเข้าคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดก่อนวันที่ 1 พ.ย.2564 นี้ อาจจะมีโรงเรียนเปิดออนไซต์ไม่ได้พร้อมกันทุกที่ ที่เปิดออนไซต์ไม่ได้ก็จะต้องทำแผนเสนอรอบ 2 ให้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา และเมื่อเปิดเรียนออนไซต์แล้ว โรงเรียนต้องออกมาตรการดูแล โดยโรงเรียน ครู นักเรียน ผู้ปกครอง จะต้องมีมาตรการในการปฏิบัติตนเพื่อให้ปลอดโรค ปลอดภัยระหว่างมาเรียนออนไซต์ เช่น นักเรียนต้องทำอะไรบ้าง ระหว่างเดินทางมาเรียน มาถึงโรงเรียนต้องปฏิบัติอย่างไร การเว้นระยะห่าง การรับประทานอาหาร เรียนห้องละกี่คน ทุกอย่างต้องมีมาตรการรองรับให้ชัดเจน หากมีจำนวนนักเรียนเกิดต่อห้องก็อาจจะให้สลับวัน หรือสลับชั้นมาเรียน เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)กำหนด และแม้เตรียมการป้องกันดี แต่หากเกิดเหตุมีการระบาดหรือติดเชื้อในโรงเรียน จะมีแผนเผชิญเหตุอย่างไร ซึ่งเราจะไมปิดทั้งโรงเรียน หากห้องใดติดเชื้อก็ปิดเฉพาะห้องนั้น แล้วกักตัวคนที่มีความเสี่ยงสูง ห้องอื่นก็มาเรียนปกติ ดังนั้น จึงต้องทำแผนเผชิญเหตุในการร่วมมือกับ สาธารณสุข อสม. สถานีอามัย หรือโรงพยาบาลตำบลในการเผชิญเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
กรณีผู้ปกครองยังกังวล หากลูกมาเรียนที่โรงเรียนแล้วจะติดเชื้อ สพฐงก็เปิดโอกาสให้เด็กสามารถเรียนอยู่ที่บ้านได้ ไม่ได้บังคับว่าเปิดออนไซต์แล้วเด็กจะต้องมาเรียนที่โรงเรียนทั้งหมด เมื่อนักเรียนจะมีความเชื่อมั่นจึงค่อยมาเรียนออนไซต์ได้
“ตั้งแต่สัปดาห์นี้ จนถึงวันที่ 1 พ.ย. ผมจะสุ่มถามข้อมูลจาก ผอ.เขตพื้นที่ฯเป็นรายเขต ดังนั้น ผอ.เขตจะต้องมีข้อมูลประจำวัน ว่าในวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะสามารถเปิดออนไซตต์ได้กี่โรง เปิดไม่ได้กี่โรง ทำไมเปิดไม่ได้ แล้วท่านมีวิธีการแก้ไขและเพิ่มจะนวนเปิดเรียนได้อย่างไร ถ้าผอ.เขตพื้นที่ คนใดตอบผมว่า ได้รับรายงานมาเท่านี้ครับ หรือผมยังไม่ได้รับรายงานจากศึกษานิเทศก์ ผมจะถือว่าท่านไม่ได้ใส่ใจต่อการบริหารจัดการที่ดีพอ เพราะผมเองก็ต้องมีข้อมูลรายงาน น.ส.จรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. เป็นรายวันเช่นเดียวกัน เพราะท่านก็มีความห่วงใยต่อการเตรียมการเปิดภาคเรียน ความท้าทายต่อศักยภาพของผอ.เขตพื้นที่ และผอ.โรงเรียนก็คือการก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคเพื่ออยู่ร่วมกัน เราไม่สามารถกำจัดโรคโควิดไปจากเราได้ แต่เราจะเรียนรู้ในการใช้ชีวิตอยู่กับโควิดอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และขอให้ ผอ.เขตพื้นที่ สื่อสารไปยังผอ.โรงเรียน และคุณครู ว่า ในการเปิดเรียนสัปดาห์แรกและสัปดาห์ที่สอง อย่าพึ่งมุ่งไปที่การจัดการเรียนการสอนเพราะกลัวนักเรียนจะไม่ได้รับความรู้ แต่อยากให้ใช้ช่วงเวลานี้สร้างความสัมพันธ์เชื่อมั่นให้นักเรียนรู้สึกว่ามาโรงเรียนแล้วมีความสุขกว่าอยู่ที่บ้าน มีความปลอดภัยมากกว่าอยู่ที่บ้าน มีอาหารการกินดีกว่าอยู่ที่บ้าน จึงอยากให้มีการสร้างสัมพันธ์ความใกล้ชิดความไว้วางใจในมิติสังคมระหว่างครูกับนักเรียนให้มากที่สุดก่อนแล้วคุณครูค่อยๆจัดการเรียนการสอน หรือจัดการเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะ 2 ปีที่ผ่านมาเราผูกเด็กไว้กับคอมพิวเตอร์ มือถือ ไม่รู้เรียนหรืออาจจะติดเกมส์ จึงอยากให้ใช้ช่วงเวลาสองสัปดาห์แรกสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างครูกับนักเรียน และคุณครูกับผู้ปกครอง เพื่อให้เข้าใจถึงบทบาทในการเปลี่ยนมือ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมาเราใช้คุณพ่อคุณแม่เป็นครู ใช้บ้านนักเรียนเป็นโรงเรียน แต่ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ครูจะเป็นพ่อแม่คนที่สอง ให้กับนักเรียน เราจะปรับโรงเรียนเป็นบ้าน ปรับคุณครูเป็นพ่อแม่แล้วค่อยจัดการเรียนรู้ จึงอยากสื่อสารไปยังผอ.เขตพื้นที่ และผอ.โรงเรียนให้สร้างความมั่นใจว่า ถ้าลูกหลานของทุกคนมาอยู่ที่โรงเรียน เราจะเป็นพ่อแม่ที่ดีและดูแลลูกหลานเขาให้ปลอดภัยให้ได้ แล้วเราจะจัดการเรียนรู้ให้อย่างดีและมีความสุข “นายอัมพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี