ปภ.เตือน11จว.
20-30ตุลาคมเสี่ยงจมบาดาล
จังหวัดริม‘เจ้าพระยา-ท่าจีน’
เขื่อนพร่องน้ำเพิ่ม/ฝนสะสม
‘ลำตะคอง’เอ่อท่วมโคราชอีก
อุทัยธานีอ่วมน้ำทะลักเขตศก.
ปภ.ชี้ยังมีอุทกภัยใน 6 จังหวัด เตือนอีก11 จังหวัด-กทม.เฝ้าระวังน้ำท่วม ส่วนลำตะคองทะลักท่วมเมืองโคราช กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จมบาดาลระดับน้ำ 1.5 เมตร หนองฉาง จ.อุทัยธานี น้ำป่าท่วมเต็มพื้นที่กทม.โร่เตือน 11 ชุมชนนอกคันกั้นน้ำเจ้าพระยา รับมือลมหนาวเยือนชาวกรุง อุณหภูมิลด แตะ 22 องศาฯ
เมื่อวันที่ 19ตุลาคมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17-18ตุลาคม 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 9จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว ชลบุรี สมุทรปราการ นครปฐมและกาญจนบุรี รวม 26 อำเภอ 71 ตำบล 289หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,165ครัวเรือน
ปภ.เผยยังมีอุทกภัยใน6จังหวัด
สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 3จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6จังหวัด 20 อำเภอ 64ตำบล 282หมู่บ้าน 6,164 ครัวเรือน ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ นครปฐม และสระแก้ว ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายแล้วในหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่งปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป
เตือน11จว.และกทม.เฝ้าระวังน้ำ
นอกจากนี้ ปภ.ได้แจ้งเตือน 11 จังหวัด ประกอบด้วย นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร รวมทั้ง กทม.ให้เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น ช่วงวันที่ 20-30 ตุลาคม 2564พร้อมกันนั้นให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งยังมีสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีน จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำ เตรียมพร้อมรับมือ แจ้งจังหวัดประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ เตรียมอุปกรณ์ เครื่องจักรกล พร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
กอนช.เร่งบริหารจัดการน้ำเขื่อนฯ
ด้านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ปริมาณฝนตก ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดว่าปริมาณน้ำหลากจากตอนบนลุ่มน้ำเจ้าพระยา จากแม่น้ำปิง จะทำให้น้ำไหลผ่าน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จากอัตรา 2,484 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที เพิ่มเป็น 3,000-3,100ลบ.ม./วินาที ในวันที่ 22 ตุลาคม 2564โดยจะบริหารจัดการน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำ และผันน้ำเข้าคลองต่างๆ ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้น้ำไหลผ่าน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อยู่ในเกณฑ์ 2,700 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้น้ำเหนือและท้ายเขื่อนฯ เพิ่มจากปัจจุบัน 0.2-0.4 เมตร ช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2564
เร่งผันน้ำจากแม่น้ำท่าจีนเข้าทุ่ง
สำหรับแม่น้ำท่าจีน มีปริมาณน้ำไหลล้นข้ามทางระบายน้ำล้นเขื่อนกระเสียว และไหลไปสมทบกับปริมาณน้ำท่าที่เกิดจากฝนตกด้านท้ายเขื่อน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงแม่น้ำท่าจีน 150-200ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ จะบริหารจัดการโดยผันน้ำเข้าทุ่งโพธิ์พระยา ลดปริมาณน้ำหลาก ส่วนปริมาณน้ำที่เหลือจะส่งผลให้แม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่ จ.สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร มีระดับสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 0.3-0.5 เมตร ช่วงวันที่ 20-27 ตุลาคม 2564
คาดลำตะคองล้นท่วมเมืองโคราช
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครราชสีมา และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ประชุมหารือเพื่อวางแผนรับมือสถานการณ์น้ำลำตะคองที่ไหลผ่าน อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังจากปริมาณน้ำในลำตะคอง ไหลผ่านตัวเมืองในปริมาณสูงขึ้น
นายวิเชียรกล่าวว่า ทางชลประทานจังหวัด ได้แจ้งเตือนว่าน้ำจากลำตะคองที่ต้องผ่านประตูระบายน้ำละลมหม้อ ต.โคกกรวด ก่อนจะผ่านเข้าตัวเมืองนครราชสีมาขณะนี้มีปริมาณน้ำมาก ทำให้น้ำล้นประตูระบายน้ำไม่สามารถแบ่งน้ำออกทางลำน้ำบริบูรณ์ได้ มวลน้ำทั้งหมดจาก อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ จึงไหลเข้าลำตะคองที่ไหลผ่านตัวเมือง หรือเขตเทศบาลนครนครราชสีมา คาดว่าในวันที่ 20ตุลาคมนี้ จะไหลเข้าพื้นที่ อ.เมือง และเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จึงต้องเร่งวางแผนรับมือ โดยเฉพาะโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และ รพ.เซนต์เมรี่ นครราชสีมา
กั้นกระสอบทราย-สูบน้ำรพ.3แห่ง
ทั้งนี้ ได้เตรียมการกั้นกระสอบทรายตลอดแนวของโรงพยาบาล ทั้ง 3 แห่ง รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ โดยมีการขนย้ายสิ่งของ อุปกรณ์ทางการแพทย์ขึ้นสูงป้องกันสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเกิดน้ำท่วมขึ้น ขณะเดียวกันได้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนตลอดแนวลำตะคอง ตั้งแต่ อ.ขามทะเลสอ ถึง อ.พิมาย ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำแล้ว
ชุมชนมิตรภาพซอย4น้ำเอ่อท่วม
บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุมชนมิตรภาพ ซอย 4 เทศบาลนครนครราชสีมา ถูกน้ำจากลำตะคอง เอ่อท่วมพื้นที่ และถนนมิตรภาพจนการจราจรติดขัด เนื่องจากเสียพื้นที่จราจรไป 1 ช่องทาง เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมรถสุขาเคลื่อนที่ อำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านที่ประสบภัยกว่า 200 ครัวเรือน และเข้าช่วยเหลือขนย้ายข้าวของ และอพยพคนออกจากพื้นที่เนื่องจากน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีมวลน้ำสะสมเกือบ 140ล้าน ลบ.ม.อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากเขตเทศบาลฯ แล้ว ยังมีการแจ้งเตือน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมือง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมสูงด้วย
พ่อเมืองโคราชลงพื้นที่ช่วยเหลือ
ขณะที่ ผวจ.นครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจดูสถานการณ์ และย้ำเตือนทุกภาคส่วนแจ้งเตือนประชาชนรวมทั้งเร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยที่เขื่อนลำตะคอง ขณะนี้มีปริมาณน้ำร้อยละ 98 ของความจุ ไม่มีการระบายน้ำลงมา ทาง ผองโครงการชลประทานนครราชสีมา ให้ข้อมูลว่าหากน้ำเต็มเขื่อน ยังมีช่องว่างสำรองสำหรับเก็บกักน้ำได้อีก 60ล้าน ลบ.ม.หากน้ำมีปริมาณไม่เกินกว่านี้ ตามแผนก็จะไม่มีการระบายน้ำลงมา จนกว่าสถานการณ์ในลำตะคองจะคลี่คลายอย่างไรก็ดี สถานการณ์น้ำไม่ใช่เพียงลำตะคองเท่านั้น แต่ลำพระเพลิง ลำมูลบน และลำแซะ ต่างอยู่ในภาวะเสี่ยงที่น้ำจะเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
กบินทร์จมบาดาลท่วม1.5เมตร
จากอิทธิพลของพายุ ‘คมปาซุ’ ได้ส่งผลให้พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี หลายแห่งถูกน้ำท่วมเสียหาย โดยที่ อ.กบินทร์บุรี พบว่าหลายตำบลถูกน้ำที่ไหลจากที่สูง ท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และถนนเส้นทางต่างๆ เช่น ที่บ้านเขาดิน-บ้านคลองม่วง หมู่ 2 และ 12 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี ระดับน้ำตั้งแต่ 20เซนติเมตร-1.5 เมตรในแต่ละพื้นที่และถนนมีกระแสน้ำค่อนข้างแรง โดยน้ำไหลลงมาจาก จ.สระแก้ว และอ่างเก็บน้ำเขื่อนระบม มาบรรจบกันที่คลองพระปรง รวมถึงพื้นที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ คลองพระปลง น้ำล้นจนมีชาวบ้านนำตาข่ายมาดักปลาตามวิถีชีวิตของชาวบ้านในช่วงน้ำท่วม
นอกจากนี้จากการสำรวจมุมสูงโดยรอบตลาดเทศบาลกบินทร์บุรี พบว่าน้ำไหลท่วมทุ่งรับน้ำเกือบเต็มทั้งหมด และเอ่อล้นท่วมชุมชนต่างๆ ส่วนตลาดเก่า 100 ปี เขตเทศบาลกบินทร์ ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำสูง70เซนติเมตร-1เมตร ขณะเดียวกันระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี ด้านหน้าสถานีอุตุฯกบินทร์บุรี วัดระดับได้ 9.97 เมตร
หนองฉางอ่วมถนนสัญจรไมได้
วันเดียวกัน ที่เขตเทศบาล ต.หนองฉาง จ.อุทัยธานี มวลน้ำที่ระบายจากเขื่อนทับเสลา และน้ำป่าที่ไหลมาสมทบ ส่งผลให้มวลน้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนริมคลองชลประทานหนองฉาง ล้นเข้าตลาด ร้านค้า เขตเศรษฐกิจของเทศบาล ตลอดจนโรงเรียน และสถานที่ราชการต่างๆ ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร เป็นระยะทางยาวไปถึงถนนสายหลักที่ใช้สัญจรระหว่าง อ.หนองฉาง และ อ.ทัพทัน รถยนต์สัญจรอย่างยากลำบาก ส่วนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลาดสด ได้นำสินค้ามาตั้งร้านขายที่ริมทางเท้าถนนเทศบาล 2 ติดกับสถานีขนส่งผู้โดยสารหนองฉาง เป็นการชั่วคราวแล้ว
กทม.เตือน11ชุมชนนอกคันกั้นน้ำ
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำเหนือที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ว่ากรมชลประทานได้วัดปริมาณน้ำไหลผ่าน กทม.เฉลี่ย 2,923ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาด กทม.อยู่ที่ระดับ 2 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 1 เมตร จึงไม่ส่งผลกระทบพื้นที่ กทม.ขณะที่ปริมาณฝนรวมสูงสุด 0.5 มิลลิเมตร ไม่มีจุดเร่งระบายน้ำถนนสายหลัก อย่างไรก็ดี กอนช.คาดการณ์ปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ว่าจะเพิ่มสูงขึ้น 0.2-0.4 เมตร จึงขอให้ชุมชนนอกคันกั้นน้ำ 11 ชุมชน 239 ครัวเรือน ใน 7 เขต เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ตรวจแนวป้องกันริมน้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ กทม.ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำโดยตรวจสอบความแข็งแรงและจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7ถึงบางนา ความยาวประมาณ 78.93 กิโลเมตร และเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ)และบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำตามจุดต่างๆ 14 จุด รวมระยะทาง 2,512 เมตร พร้อมทั้งตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา 97สถานีและบ่อสูบน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำในช่วงน้ำทะเลหนุน รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุด เครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้เข้าปฏิบัติการช่วยเหลือได้ทันที
อุตุฯชี้ทั่วไทยยังมีฝนตกร้อยละ30
อีกด้านหนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่าร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบนมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้มีลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นภาคเหนือ มีฝน 30% ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝน 30% ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียสภาคกลาง มีฝน 30% ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30องศาเซลเซียส
กทม.อุณหภูมิลดแตะ22องศาฯ
ภาคตะวันออก มีฝน 30% ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง40% ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร กทม.และปริมณฑล มีฝน 30% ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32องศาเซลเซียส
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี