ตำรวจจับทะลุแก๊สอีก3คน

ซิ่งจยย.หลงทางจุดชุมนุม

ตำรวจนครบาลจับ 3 แนวร่วม ทะลุแก๊สยึดอุปกรณ์ทำป่วนเพียบพบสับสนในจุดชุมนุมต้องเร่งซิ่งจยย.ไปจนมุมที่หน้าศาลฎีกา ด้าน“ธนาธร” เป็นนายประกันให้ “เบนจา อะปัญ” คดี ม.112 แต่ศาลไม่อนุญาตห่วงปล่อยตัวไปแล้วจะไปกระทำผิดซ้ำ

เมื่อวันที่ 21ตุลาคม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.โฆษก บช.น.และพล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.รองโฆษก บช.น.ประชาสัมพันธ์ข่าวสารการชุมนุม เมื่อวันที่ 20 ต.ค.64 มีกลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร และกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวาย

ด้านกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มทะลุแก๊ส และกลุ่มเสือหมอบแมวเซา เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ สามารถจับกุมผู้เตรียมก่อเหตุความไม่สงบได้จำนวน 3 คน บริเวณหน้าศาลฎีกา พบของกลางเป็นประทัดบอลลูกใหญ่ ประทัดบอลลูกเล็ก ลูกแก้ว และหนังสติ๊ก ได้จำนวนหลายรายการถูกซุกซ่อนมาในรถจักรยานยนต์

โดยทั้ง 3 คนให้การรับว่าจะไปร่วมก่อเหตุความไม่สงบกับกลุ่มทะลุแก๊สที่นัดหมายในวันดังกล่าวจริง แต่สับสนเรื่องสถานที่นัดหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ในส่วนบริเวณแยกดินแดงไม่พบมวลชนในพื้นที่แต่อย่างใด

ทั้งนี้ จากการปฏิบัติการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบตามมาตรการเชิงรุกในพื้นที่ วันที่ 20 ต.ค.64 และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 4 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 6 คน โดยเป็นการจับกุมในที่เกิดเหตุทั้ง 4คดี ส่วนการดำเนินการทางกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.63 จนถึงปัจจุบันมีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 716 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 341 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 375 คดี

สำหรับการชุมนุมในวันที่ 21 ต.ค.64 ได้มีการนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ ของกลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในเวลา 17.00น., กลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกาเวลา 17.30น.และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ทะลุแก๊สบริเวณแยกดินแดง เวลา 17.30น.

วันเดียวกัน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ซ.63 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวไกล พร้อมนายวีรนันท์ ฮวดศรี ทนายความ ได้นำเงินสดจำนวน 2 แสนบาทจากกองทุนราษฎรประสงค์ เดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.เบนจา อะปัญ อายุ 22 ปี แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม ผู้ต้องหาคดี ดูหมิ่นสถาบัน กรณีเมื่อวันที่ 10 ส.ค.64 น.ส.เบนจา ผู้ต้องหากับพวกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้จัดกิจกรรมที่มีการปราศรัยหน้าอาคารชิโน-ไทย ทาวเวอร์ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลและดูหมิ่นสถาบัน ฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่อนุญาตให้ประกันกันตัวเนื่องจากศาลเห็นว่า เป็นคดีร้ายแรง และเกรงจะหลบนี

โดยนายธนาธร ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ตนเป็นนายประกันเอง เพราะอยากจะช่วยน้องเบนจาที่มีบทบาทางสังคมออกมายืนหยัดเคียงข้างนักเรียน นักศึกษา ประชาชน เพื่อแสดงให้เห็นว่า การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับขั้นขอปรกันตัวนั้น นายธนาธร ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราว น.ส.เบนจา อะปัญ แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม ผู้ต้องหาคดีหมายเลขดำ ฝ.373/2564 ที่ร่วมชุมนุมปราศรัยดูหมิ่นสถาบัน และเป็นจำเลยที่ 5 ในคดีหมายเลขดำ อ.1297/2564 ที่อัยการ ยื่นฟ้อง น.ส.ภัสราวลี หรือมายด์ ธนกิจวิบูลย์ผล กับพวกรวม 12 คนดูหมิ่นสถาบันนั้น

ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้ พิเคราะห์คำร้องประกอบคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีดำ ฝ.373/2564แล้วเห็นว่า เหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่ไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราวเดิม ให้ยกคำร้อง

ส่วนคดีที่นายธนาธร ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.เบญจา จำเลยที่ 5 ในคดีหมายเลขดำ อ.1297/2564 ที่อัยการ ยื่นฟ้อง น.ส.ภัสราวลี หรือมายด์ ธนกิจวิบูลย์ผล กับพวกรวม 12 คนนั้น

ศาลอาญากรุงเทพใต้พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าแม้คดีนี้จำเลยที่ 5 จะเคยได้รับการปล่อยชั่วคราวแต่ศาลก็กำหนดเงื่อนไข ห้ามกระทำการในทำนองเดียวกันที่จะทำให้เป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเงื่อนไขอื่นโดยให้จำเลยที่ 5 ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด แต่ก็ยังปรากฏว่าจำเลยที่ 5 ปฏิบัติผิดเงื่อนไขจนถูกฟ้องเป็นคดีอื่นในศาลนี้ในการกระทำทำนองเดียวกัน อีกทั้งหลังจากการกระทำในคดีนี้ก็ยังปรากฏว่าจำเลยที่ 5 กระทำการในลักษณะเดียวกันซ้ำอีกเป็นคดีอื่นของศาลนี้ และในคดีดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตปล่อยชั่วคราว ดังนั้นจึงมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 5 อาจจะไปก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหาย ประการอื่น ตามพฤติการณ์แห่งคดีจึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 5 ให้ยกคำร้อง