แฉอีกจ่าย2หมื่นได้เข้าไทย
7เมียนมาจนมุมที่ไทรโยค
รวบ 7 หนุ่มสาวชาวทวายลอบเข้าเมือง มุ่งหน้าทำงานสมุทรสาคร สุดท้ายไม่รอดโดนรวบคาชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามนโยบายของนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9/ผบ.กกล.สุรสีห์ พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
จากนโยบายข้างต้น ล่าสุดเมืรอเวลา 09.30 น.วันนี้ 23 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ กกล.สุรสีห์ โดย ฉก.ลาดหญ้า (บ.บ้องตี้) ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์,อส.อ.ไทรโยค, ร้อย.ตชด.136 ตร.สภ.ไทรโยค และจนท.สาธารณสุข อ.ไทรโยค ได้ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) สัญชาติเมียนมา จำนวน 7 คน ได้ที่บริเวณ บ้านท้ายเหมือง หมู่ 3 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้คณะเจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ จึงจัดกำลังร่วมกับหน่วยงานข้างต้น ทำการซุ่มเฝ้าตรวจพื้นที่ดังกล่าวจนกระทั้งเวลา 09.00 น. ตรวจพบบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 7 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 2 คน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การว่าพวกตนเดินทางมาจาก จ.ทวาย ประเทศเมียนมา จากนั้นเดินทางข้ามชายแดนเข้ามาฝั่งไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติระหว่าง ช่องทางบ้องตี้บน และช่องทางห้วยโมง จุดมุ่งหมายต้องการจะไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร ก่อนเดินทางทั้งหมดได้จ่ายเงินให้นายหน้าไปแล้วคนละ 20,000 บาท
หลังจากแรงงานทั้งหมดให้การยอมรับสารภาพ จึงให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ต้องหา เบื้องต้นไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงทำการส่งต่อให้ พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารเรือ จากหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตอุบลราชธานี นำโดย น.อ.ณัฐวัชต์ วิชกูล ผบ.นรข.เขต อบ. สนธิกำลังกับ พ.อ.พงษ์เทพ เทพคำราม รอง ผบ.ทก.กกล.สุรนารี พ.ท.วิศิษฎ์ สุขหงส์ เสธ.ทก.กกล.สุรนารี พ.ต.อ.ชัยกฤต โชติวรรณ ผกก.สภ.เขมราฐ นายบัณฑิต สัตย์ธรรม ผญบ.บ้านนาสนาม ตำรวจและฝ่ายปกครอง จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวลาวพร้อมเด็กเล็ก ซึ่งเป็นลูกของแรงงานต่างด้าวดังกล่าว รวม 13 คน โดยจับกุมตัวได้ที่ ที่ชายแดนไทยลาวริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตบ้านแก้งเกลี้ยง อำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี
ท้าวสี สุดเต้ อายุ 31 ปี ชาวเมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนกับเพื่อนชาวลาวทั้งหมดซึ่งเดินทางข้ามแม่น้ำโขงมาเป็นครอบครัว กำลังจะเข้าไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ผ่านมาเข้าออกประเทศถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แต่ครั้งนี้ เข้ามาผิดกฎหมาย เพราะทางการลาวยังไม่เปิดประเทศ ซึ่งพวกตนได้เสียค่านายหน้าและค่าโดยสารรถไปแล้วคนละ 4500 บาทแต่มาถูกจับกุมตัวเสียก่อนซึ่งผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เบื้องต้น ทุกคนปลอดภัย
ด้านนาวาเอกณัฐวัชต์ วิชกูล ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตอุบลราชธานี(ผบ.นรข.เขตอุบลราชธานี) ฝากถึงประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อกลุ่มนายหน้า ที่ไปปล่อยข่าวว่า ทางรัฐบาลไทย ได้เปิดเทศ ให้เข้ามาทำงานที่เมืองไทยได้ ซึ่งเป็นข่าวปลอม เพราะขณะนี้รัฐบาลไทย ยังไม่เปิดประเทศรับแรงงานจากประเทศลาวแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี