เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกรณี นายมะแอ สาแม อายุ 43 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเบตง เข้าจับกุมในคดีอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.จำนวน 145 นัด และยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ที่บริเวณร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ไม่มีเลขที่ ริมถนนนาคราชบำรุง ในเขตเทศบาลเมือเบตง เมื่อวันที่ 24 ต.ค.62 ที่ผ่านมา และได้ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน 23 วัน ภายหลังจากฟังคำตัดสินได้เข้ากระบวนการตรวจเชื้อโควิด-19 ผลออกมาเป็นบวก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเข้ารักาตัวที่ รพ.เบตง ต่อมาได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้าประมาณตี 5 ของวันที่ 23 ต.ค.64 ที่ผ่านมา
ต่อมา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ซึ่งได้รับการประสารจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ต.ยะลา ให้มารับนายมะแอ ในพื้นที่ จ.ยะลา ต่อมาในวันนี้ (24 ต.ค.) เวลา 11.30 น.นายอำเภอเบตง ได้เดินทางออกจากอำเภอเบตงเมื่อช่วงเช้า พร้อมกำลัง อส. ตำรวจภูธรเบตง เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เดินทางไปยังจุดนัดหมาย ที่แหล่งข่าวแจ้งมา จึงวางแผนเพื่อป้องกันการหลบหนีและตอบโต้ เนื่องจากผู้ต้องขังมีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อนถูกดำเนินคดี มีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านราโมง ต.ยะรม แจ้งว่า เวลามาเก็บเงินค่ายาเสพติด (ไอซ์) ไม่ได้ ก็จะใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงขู่ หน้าบ้านลูกค้า มาตลอด เป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านในพื้นที่
ส่วนสาเหตุที่หลบหนีนายมะแอ อ้างว่า ต้องการความยุติธรรม เนื่องจากศาลชั้นต้นตัดสินในเป็นคดีจำหน่ายยาไอซ์ ต่อมาได้อุทธรณ์ออกมา และได้มาฟังคำตัดสิน และได้ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน 23 วัน ในข้อหาจำหน่ายยาบ้า ซึ่งในความจริง ผมได้ปฏิเสธว่าจำหน่ายยาไอซ์ แต่ผมยอมรับว่าผมเสพ แต่ผมไม่ได้จำหน่าย แต่พอมาฟังคำตัดสินกลับกลายเป็นว่าผมสารภาพทุกข้อกล่าวหา และได้ถูกตัดสินในข้อหาจำหน่ายยาบ้า ซึ่งในวันเกิดเหตุไม่มียาบ้าซักเม็ด นอกจากนี้ ผมยังต้องไปกู้เงินมาสู้คดีเพื่อนำเงินที่กู้ไปประกันตัวออกมา จนมาถูกตัดสินดังกล่าว อีกอย่าง หากผมติดคุกไป ไม่มีใครที่จะมาหาเงินเลี้ยงลูก เมีย และเมียก็พึ่งทำงานได้วันละ 280 บาท และต้องผ่อนเงินเดือน 4,500 บาท แต่พอผมมาถูกจับใครจะหา เงินที่กู้มาเจ้าของเงินบอกว่า หากไม่จ่ายภายใน 2 เดือน ก็จะปรับยอดเงิน หากผมติดคุก 5 - 6 ปี เงินก็จะปรับยอดเป็น 6 แสนบาท
ด้าน นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้พูดคุยกับนายมะแอ ว่าจะดูแล และจะไปพูดคุยกับเจ้าของเงินให้ยืดระยะเวลาไปก่อน เพื่อเป็นการทุเลาในการต้องรีบหาเงินมาคืน
ภายหลังจากนายมะแอ ยอมรับตามที่นายอำเภอเบตง ว่าจะดูแลในทุกด้าน เมื่อเข้าไปในเรือนจำจะไม่ถูกทำร้าย ส่วนเรื่องเงินก็จะไปเจรจาต่อรองให้ จึงได้นำตัวจากพื้นที่ จ.ยะลา นำตัวมาที่ รพ.เบตง โดยมีลูก 3 คน มารอรับพ่อ ขณะเดียวกัน นายมะแอ ผู้ต้องขัง บอกกับลูกว่า ดูแลน้องด้วย ส่วนแม่ ต้องรอผลตรวจว่าติดเชื้อหรือไม่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายมะแอ และภรรยา เข้าห้องตรวจเชื้อ ก่อนนำตัวไปรักษาต่อที่ตึกโควิด โรงพยาบาลเบตง ต่อไป
ก่อนเกิดเหตุ จากการสืบสวนของตำรวจชุดสืบ สภ.เบตง ทราบว่า หลังจากที่ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับสัญญาณโทรศัพท์ที่ติดต่อกับญาติได้ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา เจ้าหน้าที่จึงรุด แต่ปรากฏว่า หายตัวไม่พบ ส่วนสัญญาณโทรศัพท์หายไป จนต่อมาในเวลา 22.30 น.ของคืนวันที่ 23 ต.ค.ได้มีแหล่งข่าวในพื้นที่ยะลาแจ้งมาว่า นายมะแอ ผู้ต้องขังที่หลบหนี ต้องการมอบตัวกับนายอำเภอเบตงคนเดียว จึงได้วางแผนและไปรับตัวกลับมารักษาตัวดังกล่าว จนกว่า การติดเชื้อโควิดหายจึงนำเข้าเรือนจำอำเภอเบตง ต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี