4 ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดือดขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนากาฬสินธุ์ กรณีทำหนังสือรายงานกล่าวหา 7 นักการเมืองเคลื่อนไหวล่ารายชื่อคัดค้านปมถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) พร้อมชงเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ชี้เจตนาทำแผ่นดินอีสานแตกแยก
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 26 ต.ค.64 ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.กลนคร นางบุญรื่น ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ อดีต รมช.ศึกษาฯ, นายพีระเพชร ศิริกุล ส.ส.กาฬสินธุ์ และนายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ ซึ่งทั้งหมดเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธุ์ พนักงานสอบสวน และ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ กรณีการทำหนังสือรายงานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุมีนักการเมือง 7 คนระดมล่ารายชื่อ 100,000 รายชื่อเพื่อถวายฎีกาในทำนองว่า คณะสงฆ์ (ธรรมยุต) ได้ยุติความเคลื่อนไหวแล้ว แต่ยังมีศิษยานุศิษย์ที่เป็นฝ่ายนักการเมืองเคลื่อนไหวทำการล่ารายชื่อเพื่อทูลเกล้าถวายฎีกาโดย ส.ส.ที่มีรายชื่อมองว่าเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายเสื่อมเสียต่อตำแหน่งหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนผ่านทางสื่อออนไลน์ ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์และกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.กลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมด้วยตัวแทนนักการเมืองรวม 7 คนได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีกับนายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ จากกรณีนายบัญชายุทธ ได้บันทึกข้อความถึง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวหาใส่ความอันเป็นเท็จต่อตนกับนักการเมืองรวม 7 คน โดยกล่าวว่า คณะสงฆ์(ธรรมยุต) ได้ยุติความเคลื่อนไหวแล้ว แต่ยังคงมีศิษยานุศิษย์ ที่เป็นฝ่ายนักการเมืองเคลื่อนไหว ทำการล่ารายชื่อ 100,000 รายชื่อเพื่อทูลเกล้าถวายฎีกา
"ข้อความดังกล่าวถือเป็นเท็จ เป็นการใส่ความผมและนักการเมืองรวม 7 คนทำให้เกิดความเสียหาย เสื่อมเสียต่อตำแหน่งหน้าที่ในฐานะ ส.ส.ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนผ่านทางสื่อออนไลน์ ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของผู้แจ้งกับพวกที่ได้พบเห็นข้อความทางสื่อออนไลน์และยังได้มีการนำออกเผยแพร่ ผ่านสื่อโทรทัศน์และสื่อวิทยุกระจายเสียงไปทั่วราชอาณาจักรและผู้พบเห็นที่เป็นพลเมืองไทยทั่วโลก โดยเหตุเกิดที่ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ทั้งนี้ได้มอบเอกสารที่เป็นหลักฐานประกอบการแจ้งความไว้แล้ว" ดร.นิยมกล่าว
นายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.กาฬสินธุ์ เขต 2 ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การเข้าแจ้งความครั้งนี้เป็นการปกป้องสิทธิ์เนื่องจากการทำหนังสือเป็นการรายงานไม่ตรงความเป็นจริง เพราะต้องเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของประชาชนหรือตนนั้น เป็นความบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งใดแอบแฝง ซึ่งเรื่องนี้ก่อนหน้า กมธ.กฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร ได้รับเรื่องการร้องคัดค้านจากประชาชนคนกาฬสินธุ์แล้ว แต่เมื่อเกิดมีการรายงานเท็จนั้นก็อยากจะบอกว่าการทำเช่นนี้ ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนากาฬสินธุ์ กำลังเติมเชื้อไฟ สร้างความแตกแยกให้กับคณะสงฆ์และประชาชนคนกาฬสินธุ์ ซึ่งในฐานะ ส.ส.ทั้ง 4 คน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะนำเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร ให้พิจารณาว่ามีเจตนาอะไรที่มีการรายงานเช่นนี้
ขณะที่นางบุญรื่น ศรีธเรศ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.กาฬสินธุ์ เขต 1 กล่าวว่า การลงชื่อเพื่อถวายฎีกาและคัดค้านเป็นเรื่องของประชาชนที่เป็นศิษยานุศิษย์เจ้าคุณบัวศรี เพื่อแสดงเจตนารมณ์ด้วยความศรัทธาในตัวเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์จึงได้มีการลงรายชื่อ 100,000 รายชื่อ เพื่อถวายฎีกา ซึ่งเป็นสิ่งที่ศิษยานุศิษย์ทุกคนสามารถกระทำได้ ส.ส.กาฬสินธุ์ ส.ส.สกลนคร ไม่ได้ไปปลุกระดมแต่อย่างใด เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนคิดเอง ทำเอง เมื่อมีการพาดพิงก็คงต้องพิสูจน์และจะเดินหน้าหาความจริงและเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้านนายพีระเพชร ศิริกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.กาฬสินธุ์ เขต 4 กล่าวว่า อยากฝากไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่าท่านกำลังจะทำหินแตก แยกประชาชนให้เกิดความแตกแยก ถือเป็นการทำที่ไม่รู้ว่าหวังผลหรือมีเจตนาอะไรหรือไม่อย่างไร แต่ที่แน่ๆ ท่าน ผอ.พุทธฯ กำลังทำลายศรัทธาประชาชนคนกาฬสินธุ์ให้แยกออกเป็นสองฝ่าย จึงขอให้ยุติพฤติกรรมรายงานที่ไม่ตรงความจริง ควรที่จะมาสอบถามว่าสิ่งที่มีการต่อต้านนั้นเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ ไม่ควรที่จะโทษว่าเป็นเรื่องของการเมือง เพราะความศรัทธากับการเมืองคนละเรื่องกัน ในส่วนตนที่เป็นตัวแทนของประชาชนก็พร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงต่อไป
รายงานแจ้งว่า ภายหลังเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีได้ให้ ส.ส.ทั้ง 4 คน ลงรายมือชื่อเพื่อลงประจำวันคดี จากนั้นจะมีการเรียกผู้ร้องทั้ง 4 มาสอบปากคำ และจะเรียกนายบัญชายุทธ นาคมุจรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ มาสอบปากคำเพื่อสรุปสำนวน ดำเนินคดีต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี