“ตม.พังงา” จับเมียนมาฆ่าเพื่อนร่วมชาติตนเอง หลบหนีนาน 17 ปี ก่อนจนมุม
9 พฤศจิกายน 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ บูรณ์ชนะ ผกก.ตม.จว.พังงา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พังงา แถลงข่าวการจับกุมนายติ๋ว หรือนายยาว สัญชาติเมียนมา อายุ 46 ปี หมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ ส.12/2548 ลง 26 ม.ค.48 ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน” หมดอายุความวันที่ 29 ก.ย.67
สืบเนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.ทับปุด ได้รับแจ้งว่าพบศพนายลับ อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา บริเวณสวนปาล์ม หมู่ 1 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ทับปุด ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และทราบสาเหตุเกิดจากผู้ตายมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมชาติที่ทำงานเดียวกันบ่อยครั้ง ทำให้เกิดความโกรธแค้น จึงร่วมกันฆ่าผู้ตาย แล้วทิ้งศพไว้ ในที่เกิดเหตุ จึงได้ออกหมายจับต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 4 ราย คือ นายดำ นายติ๋วหรือยาว นายโทน และนายซอ
เมื่อปลายปี 2562 สภ.ทับปุด ได้ส่งหมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ ส.12/2548 ลง 26 ม.ค.48 ผู้ต้องหาชื่อ นายติ๋ว หรือนายยาว ที่ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน หมดอายุความวันที่ 29 ก.ย.67 มาให้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.พังงา รู้สึกคุ้นว่าเคยเห็นหน้ามาก่อน คล้ายกับแรงงานที่เคยทำข้อมูลท้องถิ่นไว้ จึงได้ติดตามสืบสวนหาตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวตลอดมา กระทั่งวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ได้รับคำสั่งให้ระดมหมายจับของศูนย์ CCOC เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.พังงา จึงได้นำหมายจับพร้อมภาพถ่ายของผู้ต้องหาไปให้เจ้าหน้าที่รายงานตัว 90 วัน ของ ตม.จว.พังงา ตรวจสอบ ทราบว่าเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ได้รับแจ้งรายงานตัว 90 วัน จากหนังสือเดินทางบุคคลคล้ายผู้ต้องหาตามหมายจับ แล้วได้นำภาพของหนังสือเดินทาง และข้อมูลเลขประจำตัวคนต่างด้าว 13 หลัก ราย MR.MIN สัญชาติ เมียนมา ถือหนังสือเดินทาง MC xxxxx มามอบให้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.พังงา เพื่อสืบค้นข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลของ สตม. ทำให้ทราบที่อยู่ของผู้ต้องสงสัย
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.พังงา ได้ประสานข้อมูลกับจัดหางานจังหวัดพังงา และศูนย์แรงงานภาค 8 จึงทราบข้อมูลชื่อนายจ้าง สถานที่ทำงาน ของผู้ต้องสงสัย และเชื่อได้ว่าบุคคลต้องสงสัยน่าจะเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.พังงา จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบบุคคลรายดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นบุคคลในภาพตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัว MR.MIN ผู้ต้องหา และนำตัวส่ง สภ.ทับปุด ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. ระดมกวาดล้างคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ขบวนการขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ ออกพื้นที่จังหวัดที่มีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 และรวมถึงการที่คนต่างชาติเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. ขอเรียนว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี