'หมอ'จับตาโควิดไทยหลังสัปดาห์ที่3ธ.ค. ชี้ถึงยุควางแผนฉีดวัคซีนระยะยาว

'หมอ'จับตาโควิดไทยหลังสัปดาห์ที่3ธ.ค. ชี้ถึงยุควางแผนฉีดวัคซีนระยะยาว

วันพฤหัสบดี ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 08.51 น.

25 พฤศจิกายน 2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ “โควิด” ผ่านทางเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้...

ทะลุ 259 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 592,359 คน ตายเพิ่ม 7,022 คน รวมแล้วติดไปรวม 259,636,411 คน เสียชีวิตรวม 5,190,443 คน


5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุด ยังเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร รัสเซีย และฝรั่งเศส
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 97.09 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 95.71 ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึง 67.31% ของทั้งโลก พอๆ กับจำนวนเสียชีวิตเพิ่มที่คิดเป็น 60.86% เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลก

...สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 5,857 คน สูงเป็นอันดับ 20 ของโลก หากรวม ATK อีก 1,860 คน จะขยับเป็นอันดับ 18 ของโลก เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากตุรกีและเวียดนาม

...เยอรมนี เมื่อวานติดเชื้อใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ 73,966 คน เสียชีวิตเพิ่ม 321 คน แนวโน้มทั้งติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เหลียวดูเรื่องวัคซีนของเค้า ฉีดไปครบสองโดส 68% โดยฉีดไปอย่างน้อย 1 โดส 70.5% และมีคนได้รับเข็มกระตุ้นไปแล้ว 7.4%

...เกาหลีใต้ ติดเชื้อใหม่และเสียชีวิตสูงสุดเท่าที่เคยระบาดมา ติดเพิ่ม 4,115 คน เสียชีวิตเพิ่ม 35 คน แนวโน้มทั้งติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เหลียวดูเรื่องวัคซีนของเค้า ฉีดไปครบสองโดส 78.4% โดยฉีดไปอย่างน้อย 1 โดส 81.7% และมีคนได้รับเข็มกระตุ้นไปแล้ว 3.8%

...ด้วยสถิติที่เห็นจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก การเปิดประเทศ ท่องเที่ยว และใช้ชีวิตแบบปกตินั้น จะตามมาด้วยเรื่องการระบาดที่หนักขึ้น ติดเชื้อเพิ่มและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น แม้ประเทศเหล่านั้นได้มีอัตราการฉีดวัคซีนไปมากแล้วก็ตาม ดังนั้นไทยเราจึงต้องตระหนักถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดจึงสำคัญมาก ใส่หน้ากากเสมอ และเว้นระยะห่างจากคนอื่นเกิน 1 เมตร ช่วงที่ต้องจับตาดูคือหลังสัปดาห์ที่ 3 ของธันวาคมเป็นต้นไป

...วัคซีน ในช่วง 9-12 เดือนถัดจากนี้ไป คาดว่าจะมีข้อมูลจากการวิจัยทางการแพทย์ของต่างประเทศที่ติดตามหลังมีการฉีดวัคซีนไประยะที่ยาวนานเพียงพอที่จะบอกได้ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในระยะยาวนั้นจะเป็นไปในลักษณะใด เพราะมีการติดตามทั้งเรื่องผลระยะยาวทั้งในด้านระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือด (แอนติบอดี้) ภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ การป้องกันป่วยรุนแรง การเสียชีวิต การติดเชื้อซ้ำ ฯลฯ รวมถึงการติดตามดูประสิทธิภาพในสถานการณ์จริงของสูตรหลักต่างๆ ทั้ง mRNA vaccines แบบชนิดเดียวหรือต่างชนิด, viral vector แบบชนิดเดียวหรือต่างชนิด, เชื้อตายสองโดสตามด้วย mRNA vaccines

ดังนั้นคำถามที่เราถามกันบ่อยว่า หลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อ มีคำตอบตอนนี้เพียงว่าเรายังไม่ทราบ และกำลังมีการศึกษา ต้องรอติดตามกันอย่างใกล้ชิด

การตัดสินใจใดๆ ไม่ว่าจะยา วัคซีน หรืออื่นๆ ที่ส่งผลต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของคนในสังคมวงกว้าง จำเป็นจะต้องอิงหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับของสากล มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบมากมาย ดังหลายต่อหลายเรื่องที่เราเห็นเป็นบทเรียนในช่วงที่ผ่านมา ด้วยรักและห่วงใย


.
(010)

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top