สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดอำนาจเจริญมีผู้ติดเชื้อไม่มาก จึงมีการผ่อนคลาย สามารถจัดกิจกรรม งานประเพณีต่างๆ ได้มากขึ้น ภายใต้มาตรการป้องกันโควิ-19 อย่างเคร่งครัด
จึงพบเห็น พุทธศาสนิกชน ญาติโยมเดินทางเข้าวัด ทำบุญ ทำทาน ฟังธรรมแบบชีวิตวิถีใหม่ (NEW NORMAL) และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดลบันดาล ให้ผ่านพ้นจากวิกฤตไวรัสมรณะให้ได้โดยเร็ว
ที่วัดดงเฒ่าเก่า ต.นาหมอม้า อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของตัวเมืองอำนาจเจริญ ไปตามถนนอรุณประเสริฐ สายหลัก อำนาจเจริญ-กรุงเทพมหานคร ห่างตัวเมืองอำนาจเจริญ ประมาณ 19 กิโลเมตร ถึงสี่แยกไฟแดง(แยกกุญชร) เลี้ยวขวาเข้าถนนสายรองอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก่อนถึงตำบลนาหมอม้า ประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบเห็นป้ายบอกวัดดงเฒ่าเก่าด้านขวามืออย่างชัดเจน
จากนั้นเลี้ยวเข้าถนนคอนกรีตเสริมเหล็กอีกประมาณ 500 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดดงเฒ่าเก่า ซึ่งปกคลุมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สงบร่มรื่น มีกระแสลมพัดกระทบกายอยู่ตลอดเวลา ทำให้เย็นสบาย ท่ามกลางเสียงจิ้งหรีด จักจั่น เรไร นก กา นานาชนิด ขับกล่อมบรรเลงเป็นเสียงเพลงอย่างเพลิดเพลิน ทำให้จิตใจเป็นสุข เมื่อเดินเข้าสู่วัดแห่งนี้
เนื่องจากก่อนที่จะมีการก่อตั้งเป็นวัดดงเฒ่าเก่า ว่ากันว่า เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา บริเวณนี้เป็นเส้นทางการเดินทางของชนชาวขอมโบราณ ซึ่งเชื่อมกันกับเส้นทางตามแนวชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ, บุรีรัมย์และนครราชสีมา หากมีการพักค้างแรมที่ไหนก็จะมีการก่อสร้างสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของพวกขอมโบราณ จึงปรากฏเป็นหลักฐานให้เห็น เช่น ใบเสมา พระพุทธรูป กำแพง และอื่นๆ ในปัจจุบัน
ต่อมา เจ้าอาวาสวัดดงเฒ่าเก่า เดินธุดงค์ไปหลายพื้นที่ทั้งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว),กัมพูชาและเมียนมา กระทั่งเดินผ่านพื้นที่ดงเฒ่าเก่า พบว่า เป็นที่เหมาะสมที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้ปักกรดจำพรรษาอยู่ที่นี่ กระทั่งชาวบ้านนาหมอม้าทราบข่าว ก็เลยร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ ก่อสร้างกุฏิ อุโบสถและอื่นๆขึ้น จนกลายเป็นวัดดงเฒ่าเก่า สังกัด ธรรมยุต บนเนื้อที่ 100 ไร่ มีต้นไม้ขนาดใหญ่หลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่หมายปองของบรรดามอดไม้ แอบเข้ามาตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงพวกนิยมวัตถุมงคลจะแอบเข้ามาขุดหาขุมทรัพย์สมบัติ และวัตถุมงคลอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด เข้ามาขโมย พระนารายณ์และพระพิฆเนศเนื้อสัมฤทธิ์ทั้ง 2 องค์อายุหลายร้อยปี ซึ่งตั้งอยู่หน้าพระประธาน ในศาลาการเปรียญ เพียงชั่วข้ามคืนก็เอากลับมาคืนไว้ที่เดิม เนื่องจากมีคนไปทวงเอาคืนถึงบ้าน และบางคนที่เข้ามาตัดไม้ ก็จะถูกอาถรรพ์ต่างๆ ถึงกับเป็นบ้าเสียสติ ซึ่งชาวบ้าน เชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องรักษาผืนป่าเป็นผู้ลงโทษหัวขโมยเหล่านั้น ทุกวันนี้ จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปลักลอบตัดไม้หรือแอบเข้าไปขุดหาวัตถุมงคลหรือของเก่าอีกเลย
สำหรับพุทธศาสนิกชน ที่คิดดีทำดีจะเดินทางเข้ามากราบไหว้ขอพร หลวงพ่อศิลาพันปี ไม่ได้ขาด เพื่อความเป็นสิริมงคลค้าขายดี โดยเฉพาะช่วงนี้ เกิดโรคระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะมีผู้คนเดินทางเข้ามากราบขอพร ให้ปลอดภัยจากไวรัสมรณะ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับ หลวงพ่อศิลาพันปีขุดขึ้นมาจากบริเวณที่จะก่อสร้างอุโบสถว่ากันว่า ระหว่างที่ชาวบ้านปรับพื้นดิน จอบขุดกระทบส่วนขาหลวงพ่อศิลาชาวบ้านจึงช่วยกันขุดจนพบว่าเป็นพระศิลาฝังอยู่ใต้ดินและอัญเชิญขึ้นมา ประดิษฐานในมณฑปกันแดดกันฝน และด้านข้างก็จะมีไหโบราณ จำนวน 3 ใบ ก็ขุดขึ้นมาใกล้ๆกันตั้งอยู่ ส่วนด้านล่างข้างขวา ก็จะพบเห็นแผ่นศิลาวางอยู่ เป็นภาพวาดศิลปวัฒนธรรมของขอมโบราณ มีอายุไม่ต่ำกว่า 1 พันปีเช่นกัน มณฑปแห่งนี้จึงจัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านโบราณวัตถุ เพื่อเด็กและเยาวชนและผู้ที่สนใจ เข้ามาค้นคว้าศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
นอกจากนี้ หากเดินไปตามทางเดินด้านทิศเหนือที่มีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นอยู่เต็มสองข้างทาง ประมาณ 200 เมตร ท่ามกลางความสงบร่มรื่น กระแสลมพัดกระทบกายเย็นสบายตลอดเวลาจนชวนให้เคลิบเคลิ้ม น่าพักผ่อนยิ่งนัก ก็จะพบเห็นป้ายกลุ่มเสมาธรรมจักร ซึ่งเป็นที่ตั้งของใบเสมาธรรมจักร จำนวนมาก ที่ผุดขึ้นมาเหนือพื้นดิน บางใบเสมาผุดขึ้นมาเพียงครึ่งใบ และมีจำนวนหนึ่งที่เห็นเป็นรูปร่างครบสมบูรณ์ อย่างสวยงามมาก
ส่วนเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ เกิดปรากฏการณ์ ที่ชาวบ้านและบรรดาลูกศิษย์ ที่ต้องจดจำไม่รู้ลืม คือ เกศาของหลวงพ่อบุนนำ หรือพระครูจิตตปาลคุณ เมื่อตัดออกจากศีรษะแล้ว ไหลมารวมกันกลายเป็นก้อนสีดำ ลักษณะเหมือนพระอริยสงฆ์ เมื่อละสังขารแล้วอัฐิก็จะกลายเป็นอัฐิธาตุสีขาว ทำเอาชาวบ้านถึงกับฮือฮา และเชื่อว่า หลวงพ่อบุญนำแสดงปาฏิหาริย์ จึงมีลูกศิษย์พระครูจิตตปาลคุณหรือหลวงพ่อบุนนำ นำเกศา มาใส่ผอบ เพื่อแจกจ่ายแก่พุทธศาสนิกชน ที่ต้องการมีไว้ติดตัว และเชื่อว่า จะช่วยให้ค้าขายดี เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ที่สำคัญปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วย
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี