จับอีก8ชาวเขมร

มุดรั้วลอบเข้าไทย

ไปทำงานที่ปทุมฯ

จ่ายค่านายหน้า7พัน

เขมรยังทะลักเข้าไทยต่อเนื่องรวบได้อีก 8 คน คาชายแดนสระแก้ว จะไปทำงานที่ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา สารภาพจ่ายค่านายหน้า 7 พันบาท

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 64 พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชค.ทพ.12(ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12) ฉก.ตาพระยา กองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้ ร.ท.ธิติวุฒิ ยีนุช ผบ.ร้อย ทพ.1203ฯจัดกำลังพลร่วมกับ มว.ปชด.ที่ 1 ร้อย.ปชด.ที่ 1 (พล.ร.11) ออกทำการลาดตะเวณป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ตามแนวชายแดนช่องทาธรรมชาติ บริเวณท้ายหมู่บ้านทัพเซียม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ตามนโยบายคุมเข้มตลอดแนวชายแดนของ พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา

ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วมฯร้อย ทพ.1203 ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยคาดว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา เดินเท้าลักลอบข้ามตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย แล้วเดินเลาะตามไร่อ้อยของชาวบ้านบริเวณท้ายหมู่บ้านทัพเซียม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวชาวกัมพูชาไว้ได้ทั้งหมดจำนวน 8 คน เป็นชาย2คน หญิง 5 คน และ ด.ช.1 คน ตรวจสอบไม่มีเอกสารการเดินทางและเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย จึงให้ จนท.ทหารเสนารักษ์ ร้อย ทพ.1203 สวมใส่ชุดพีพีอี ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและ คัดกรองตามมาตรการป้องกันการแร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว ไม่พบมีผู้ติดเชื้อโควิดฯจึงควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการสอบถามเบื้องต้นที่ กองร้อยทหารพรานที่1203 บ้านทัพเซียม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

ซึ่งจากการซักถามแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดอ้างว่าได้รับการติดต่อจากเพื่อนชาวเขมรทางเฟสบุ๊กชักชวนให้ไปทำงานก่อสร้างที่ จ.ปทุมธานี และ จ.ระยอง โดยเสียเงินให้กับนายหน้าชาวเขมรในการเดินทางและพาข้ามแดนคนละ 7000 บาท จากนั้น จนท.จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งให้ พนักงานสอบสวน สภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม( กห.) เปิดเผยว่า 0900 พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ร่วมประชุมกับทุกเหล่าทัพ ตร.และ กอ.รมน.ผ่าน ระบบ VTC ติดตามการสนับสนุนรัฐบาลขับเคลื่อนแก้ปัญหาที่สำคัญ ณ ศาลาว่าการกลาโหม

โดยรมช.กลาโหม ได้ย้ำสั่งการตามนโยบายที่สำคัญของ นายกรัฐมนตรี ให้ทุกเหล่าทัพ กอ.รมน.และตำรวจ โดยกองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ ยังคงเข้มงวดเฝ้าระวังและสกัดกั้นจับกุมการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ ทั้งนี้ขยายผลบังคับใช้กฎหมายกวาดล้างจับกุมให้ถึงขบวนการลักลอบนำพาแรงงานเข้าเมืองทั้งหมด ขณะเดียวกันให้เตรียมการสนับสนุนการคัดกรองแรงงานต่างด้าวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศผ่านช่องทางผ่านแดนที่กำหนดใน 5 จังหวัด ภายหลังเปิดให้มีการนำแรงงานตามบันทึกความเข้าใจร่วมกันจาก 3 ประเทศ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ซึ่งอาจมีผู้ติดเชื้อปะปนเข้ามา โดยขอให้เตรียมสถานที่กักกันควบคุมโรคและประสานการดูแลตามมาตรการทางสาธารณสุขที่กำหนด